“ราเมศ” ป้องการทำหน้าที่ ปธ.รัฐสภา ตรงไปตรงมา ยึดข้อบังคับตาม รธน. ไม่ทราบเรื่องตั้ง กมธ.มาก่อน จวก “รุ้ง” ด่าต่ำเตี้ยหยาบคาย ทั้งที่ “ชวน” ห่วงผู้ชุมนุมอยู่ตลอด ไล่ถามพ่อแม่ควรพูดหรือไม่
วันนี้ (25 ก.ย.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำผู้ชุมนุมได้กล่าวพาดพิงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ว่าการทำหน้าที่ของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตรงไปตรงมา ยึดข้อบังคับและรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ไม่มีแบ่งว่าใครจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นสมาชิกวุฒิสภา เหตุการณ์เมื่อวานนี้การที่มี สมาชิกรัฐสภาได้ใช้สิทธิ์อาศัยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อที่ 121 วรรคที่สาม ขอเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ เมื่อเป็นเช่นนั้นนายชวนในฐานะประธานรัฐสภาไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือบังคับสมาชิกรัฐสภาได้ แต่เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาทุกคนที่จะแสดงสิทธิว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สุดท้ายที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญก่อนรับหลักการก็เป็นเพราะมติของสมาชิกรัฐสภา
“ท่านชวนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามหลักการตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญทุกประการ ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เองก็ไม่ทราบมาก่อนล่วงหน้า และเพิ่งมาทราบในเวลาไม่ถึงชั่วโมง”
นายราเมศกล่าวว่า การที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้ใช้โซเชียลมีเดีย คือ Twitter ทวีตถ้อยคำที่หยาบคาย หากใครได้อ่านก็ไม่สามารถรับได้ และคิดว่าคนที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่แต่กลับใช้ถ้อยคำที่ต่ำเตี้ย หยาบคาย ใช้คำที่มีความหมายถึงอวัยวะเพศของผู้ชายพาดพิงนายชวน และมีการแชร์ข้อความนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อวานนายชวนได้แสดงความเป็นห่วงต่อผู้ชุมนุมอยู่เสมอ อีกทั้งยังได้กำชับให้ดูเรื่องความเรียบร้อย เน้นย้ำถึงความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลด้วยมิตรไมตรี ไม่ให้ใช้ความรุนแรง
“คำพูดที่ น.ส.ปนัสยาใช้กล่าวพาดพิงท่านชวนในลักษณะเช่นนี้จึงจำต้องขอบอกว่าถ้าไม่มีใครบอกน้องได้ว่าถ้อยคำดังกล่าวมันเตี้ยต่ำ หยาบคายขนาดไหน ขอให้กลับไปถามพ่อกับแม่น้องดูว่าคำพูดเช่นนั้นควรพูดออกมาหรือไม่” นายราเมศกล่าว