รมต.สำนักนายกฯ ระบุตั้ง กมธ.ศึกษาแก้ รธน.ทางออกดีที่สุด ย้อนถ้า 1 เดือนไม่คว่ำจะรับผิดชอบคำพูดยังไง ยันไม่ได้คิดกันมานาน รัฐจริงใจ ชี้เห็นต่างธรรมดา ปชต. ปชป.ไม่เอาด้วยแสดงให้เห็นว่าไม่ได้เตี๊ยม
วันนี้ (25 ก.ย.) เวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมรัฐสภามีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาญัตติร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ 30 วัน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการซื้อเวลาว่า การที่ 6 ร่างฯ ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้จริงๆ โดยเฉพาะวุฒิสภาไม่ได้ร่วมตั้งแต่ตอนที่ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ทางออกได้ดีที่สุดก็คือ การตั้งคณะกรรมาธิการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 121 ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วถูกต้องตามครรลองครองธรรม และไม่ได้เป็นระยะเวลานานที่จะพิจารณา และที่บอกว่ายื้อหรือบอกว่าจะคว่ำ ทำไมไม่คว่ำตั้งแต่วันนี้ ทำไมต้องไปอีก 1 เดือน แล้วถ้าอีก 1 เดือนพิจารณาแล้วไม่คว่ำ เขาจะรับผิดชอบคำพูดเขาอย่างไร
เมื่อถามว่าที่ตั้งกรรมาธิการฯ คิดกันมานานแล้วหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ใช่ ตนก็เพิ่งรู้ตอนช่วงที่จะลงมติ ตนว่าไม่ใช่เรื่องที่เราคิดจะยื้อหรือจะอะไร ความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเอาชนะคะคานกัน ยืนยันรัฐบาลจริงใจ สิ่งที่บอกว่าไม่จริงใจเป็นการคาดเดาหรือเปล่า แล้วถ้าวันนั้นมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนที่บอกว่ารัฐบาลจริงใจหรือเปล่า รับผิดชอบคำพูดเขาอย่างไร ส่วนห่วงกระแสนอกสภาหรือไม่นั้น ทุกคนห่วงอยู่แล้วกระแสนอกสภา เราห่วงประชาชนที่อยากเห็นในสิ่งที่เขาอยากเห็น ตนเชื่อว่าการเมืองมีหลากหลายมิติ มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและเห็นต่าง ซึ่งเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย และจากการพูดคุยกับฝ่ายค้านวันที่ 24 ก.ย.ในสภา ตนก็บอกว่าขอให้ใจเย็นๆ ให้มั่นใจว่าพวกเราไม่มีเจตนาจะดึง
เมื่อถามต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความเห็นต่างจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในเรื่องนี้ จะทำให้มีปัญหาในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ตรงนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าเราไม่มีการเตี๊ยมกัน ทุกอย่างเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิก ต่างคนต่างอิสระที่จะดำเนินการอย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการทำงานไม่ได้มีมิติเดียว ทุกฝ่ายต้องยอมรับความเห็นต่าง ต้องเห็นว่ามีความสำคัญ ถ้าไม่ยอมรับตรงนี้ สังคมก็จะเกิดมิติที่เราไม่อยากให้เกิด