xs
xsm
sm
md
lg

รบ.ยืนยัน ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ไม่สะดุด มองผลระยะยาวพัฒนาเป็นพื้นทีเศรษฐกิจใหม่ ประตูสู่ตลาดเอเชียใต้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลยืนยัน ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ไม่สะดุด มองผลระยะยาวพัฒนาเป็นพื้นทีเศรษฐกิจใหม่ ประตูสู่ตลาดเอเชียใต้ ศึกษาแลนด์บริดจ์อันดามัน-อ่าวไทย

วันนี้ (25 ก.ย.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีการควบคู่ไปกับการเดินหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รัฐบาลได้ขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor: SEC) ครอบคลุม 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เพื่อให้เป็นพื้นท่ีเศรษฐกิจใหม่และทางออกทางทะเลของภาคใต้ตอนบน โดยยึดแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ผสานกับเทคโนโลยี และความได้เปรียบทางกายภาพและที่ต้ังของพื้นที่ รวมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ EEC ทั้งนี้ กรอบการพัฒนา SEC ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การพัฒนาประตูการค้าฝั่งตะวันตก (Western Gateway) 2) การพัฒนาประตูสู่การท่องเท่ียวอ่าวไทยและอันดามัน (Royal Coast & Andaman Route) 3) การพัฒนาอุตสาหกรรมฐานชีวภาพและการแปรรูปการเกษตรมูลค่าสูง (Bio-Based & Processed Agricultural Products) และ 4) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรม (Green & Culture)

ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เริ่มขับเคลื่อนแผนการพัฒนา SEC ระยะปี 2562-2565 และยังมีแผนระยะยาวปี 2566 เป็นต้นไป รวม 111 โครงการ คิดเป็นวงเงินเฉพาะที่ต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน 102,418 ล้านบาท มีโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง โครงการพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการตลาดของท่าเรือระนองรองรับกลุ่ม BIMSTEC ที่มีประชากรกว่า 1.5 พันล้านคน (บังกลาเทศ อินเดีย เมียนมา ศรีลังกา ภูฏาน และเนปาล) โครงการพัฒนาถนนเลียบชายทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันสู่พื้นที่ตอนใน โครงการขยายทางหลวงระนอง-พังงา เป็น 4 ช่องจราจร โครงการศึกษาออกแบบ/ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รถไฟสายใหม่ระนอง-ชุมพร โครงการสนับสนุนการแปรรูปสมุนไพรแบบครบวงจร โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็น ASEAN Digital Hub

มากไปกว่านั้น รัฐบาลได้เห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมจ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุนใน “โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land bridge)” คาดว่า จะรู้ผลกลางปี 2566 ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและคมนาคมอย่างครบถ้วนระหว่าง EEC (ฝั่งอ่าวไทย) และ SEC (ฝั่งอันดามัน) เพิ่มศักยภาพในการรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าจากพื้นที่ EEC เพื่อส่งออก/นำเข้าไปยังประเทศแถบมหาสมุทรอินเดียโดยตรง และเชื่อมต่อไปยังกลุ่ม BIMSTEC ประเทศตะวันออกกลาง และยุโรปได้อย่างต่อเนื่อง

“แม้เศรษฐกิจประเทศจะอยู่ในภาวะหดตัวเช่นเดียวกับประเทศทั่วโลกเนื่องจากผลกระทบโควิด-19 แต่รัฐบาลยังคงเดินหน้าวางรากฐานเพื่อการพัฒนาประเทศและการลงทุน เพราะในระยาวเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัว การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจแห่งใหม่ และการเชื่อมโยงการคมนาคมและขนส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศถือเป็นการวางพื้นฐานสำคัญ รัฐบาลไม่ได้อยู่นิ่งเฉยรอความหวังจะถึงวันเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เดินหน้าสร้างโอกาสให้ประเทศด้วยแผนยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายชัดเจน โครงการ SEC จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นในการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และสามารถยกระดับเป็นอุตสาหกรรมท่ีใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น/เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากน้ี SEC จะเป็นประตูเศรษฐกิจด้านตะวันตกของไทยสู่เอเชียใต้ สามารถเชื่อมโยงกับ EEC ทำให้ต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ต่ำลง และจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคท่ีมีศักยภาพและเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตของเมืองและการท่องเที่ยวด้วย” รองโฆษก กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น