ส.ว.ขวาง ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ ชี้ทรยศ 16 ล.เสียง ส่อล้มการปกครอง ถามทำอะไรผิดถึงปิดสวิตช์ แนะทางออก นายกฯลาออกปิดสวิตช์ ส.ส.เลือกตั้งใหม่ “น้องวิษณุ” แนะทำประชามติ 2 ครั้ง เชื่อมียื่นศาลตีความ หากพิจารณาวาระแรกไม่ถาม ปชช. แย้มพร้อมลาออก
วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงบ่าย ส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว.สลับกันขึ้นมาอภิปรายการแก้รัฐ ธรรมนูญอย่างกว้างขวาง โดยในส่วนของ ส.ส.รัฐบาล และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนให้มีการตั้ง ส.ส.ร.มา ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มีปัญหามากมาย ขณะที่ ส.ว.ส่วนมากที่ลุกขึ้นอภิปรายในประเด็นคัดค้านการตั้ง ส.ส.ร.เนื่องจากเกรงว่า เป็นการตีเช็กเปล่า ไม่รู้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดบ้าง และมีความเสี่ยงสูงที่จะสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ และสิ้นเปลืองงบประมาณทำประชามติ โดยสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราแทน อาทิ พล.อ.นาวิน ดำริกาญจน์ ส.ว.อภิปรายว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญ การให้มี ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นการทรยศต่อ 16.8 ล้านเสียง ที่เห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และยังสิ้นเปลืองงบประมาณ 20,000 ล้านบาท ในการทำประชามติ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อวัคซีนโควิด-19 ไม่รู้คิดถึงคนไทยหรือคิดถึงวาระซ่อนเร้นของตัวเอง ดังนั้น ควรแก้รัฐธรรมนูญแบบรายมาตราจะเหมาะสมกว่า ตนยินดีที่จะสนับสนุนการแก้ไขรายมาตราเรื่องให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบ
นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว.อภิปรายว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ระบุให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มีแต่ให้แก้เพิ่มเติมเท่านั้น ดังนั้น การขอแก้ไขมาตรา 256 ให้ตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ คือ การล้มล้างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เกรงว่า อาจมีการไปยื่นให้อัยการสูงสุด หรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับทำได้หรือไม่ เพราะอาจถูกกล่าวหากระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 49 รวมถึงอาจถูก ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาเรื่องจงใจปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค ตัดสิทธิการเมือง 10 ปี และถูกฟ้องคดีอาญาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนการปิดสวิตช์ ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 นั้น ถามว่า ส.ว.250 คน ทำผิดอะไร ถึงขั้นจะปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่ให้ทำตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ ส.ว.อยู่มาไม่ถึง 2 ปี จะปิดสวิตช์แล้ว ขณะนี้ประเทศมีปัญหามากมาย นายกฯควรปิดสวิตช์ ส.ส.ด้วยการยุบสภา เลือกตั้งใหม่จะเป็นทางออกที่ดีกว่า
พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. อภิปรายว่า มองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องทำประชามติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ทำประชามติสอบถามประชาชนก่อนที่จะมีการลงมติรับหลักการในวาระแรก ว่า อยากได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และครั้งที่สอง ทำหลังจาก ส.ส.ร.ยกร่างเสร็จ และมีการลงมติเรียบร้อยแล้วให้ทำประชามติสอบถามประชาชน ว่า พอใจกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ นอกจากยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแล้ว การแก้ไขแบบรายมาตราก็มีคำถามเหมือนกันว่า จะต้องทำประชามติถามประชาชนหรือไม่ ยืนยันว่า ตนไม่ขัดข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ตกอยู่ภายในอาณัติของใคร เคารพเสียงของประชาชนและลูกๆ หลานๆ ที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ตนอยากให้แก้รัฐธรรมนูญ โดยที่ไม่ขัดกฎหมาย ไม่มีใครนำเรื่องไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า กระบวนการได้รัฐธรรมนูญไม่ชอบ เพราะเมื่อครั้งปี 2555 ที่มีการยื่นแก้ไขมาตรา 291 ในรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อแก้ไขทั้งฉบับก็มีผู้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า สามารถทำได้หรือไม่ ในที่สุดศาลวินิจฉัยว่า การแก้ไขทั้งฉบับควรผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อนที่จะมีการแก้ไข
“ผมเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีคนยื่นให้ศาลตีความเหมือนกับในปี 2555 แน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัว ถ้าผมขัดข้องหมองใจหนักๆ ก็ยินดีลาออกจาก ส.ว.เพื่อยึดหลักกฎหมายที่ถูกต้อง”