รองโฆษกรัฐบาลเผย “อนุทิน” นั่งหัวโต๊ะประชุมเตรียมแผนฟื้นฟู ขสมก. เคาะจัดเก็บค่าโดยสารอัตราเดียว จ่อชง ครม.อนุมัติเช่ารถ EV 2,511 คัน พร้อมจ้างเอกชนเดินรถ
วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่)
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยกรมการขนส่งทางบกจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ 1. แนวทางการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง โดยมีโครงข่ายหลัก จำนวน 162 เส้นทาง และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพบริหารจัดการเดินรถตามแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่) ทั้งนี้ ให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาปรับปรุงเส้นทางให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ให้ครอบคลุมพื้นที่และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในอนาคตต่อไป
2. ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ มีสิทธิได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งในเส้นทางที่มีการกำหนดใหม่ หรือเส้นทางเดินรถที่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ก่อนผู้ประกอบการขนส่งรายอื่น ในกรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพไม่ประสงค์เดินรถในเส้นทางดังกล่าว ให้กรมการขนส่งทางบกโดยอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางประกาศรับคำขอเป็นการทั่วไป
3. นโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพจัดเก็บเป็นอัตราเดียว (Single price)ในอัตรา 30 บาท/คน/วัน/ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยในอนาคตอาจปรับเพิ่มหรือลดอัตราค่าโดยสารเพื่อให้เหมาะสม กับสถานการณ์และภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ขณะที่ ขสมก.จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ 1.การเสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ที่เห็นชอบในหลักการของแผน ฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับเดิม) เป็นเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่) โดยให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เช่ารถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คัน และจ้างเอกชน เดินรถให้บริการ (รถโดยสารไฟฟ้า (EV) หรือรถโดยสาร NGV] จำนวน 1,500 คัน
2. อนุมัติให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สำหรับโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด 3. อนุมัติในหลักการให้รัฐบาลรับภาระหนี้สินของ ขสมก. โดยจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ของ ขสมก. เมื่อ Ebitda เป็นบวก (ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นมา รัฐบาลรับภาระชำระดอกเบี้ยของ ขสมก.แล้ว) ทั้งนี้ ยอดหนี้คงค้างที่รัฐบาลรับภาระจะเป็นยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 กรณี Ebitda เป็นบวกแค่ 1 หรือ 2 ปี แล้วกลับมาเป็นลบ ในหลักการปีถัดไป รัฐจะไม่ชำระหนี้เงินต้นให้ 4. อนุมัติหลักการเพื่อขอสนับสนุนเงินอุดหนุนจากภาครัฐ จำนวน 7 ปี โดยเป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มติที่ประชุมดังกล่าวยังต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป