ยังไม่สายที่จะรับฟัง “ลุงสุทิน” เตือน ระวังคนรักเจ้า หมดความอดทนกับ “อีแอบ” “ถวิล” ภาพ “6 ตุลา” ยังหลอน “พี่ศรี” ให้ระวัง ตัดกุญแจ บุกรุก มธ. คุก 4 ปี “หมอวรงค์-อุ๊” ประสานเสียง ปชช.เห็นด้วย ค้านแก้ รธน. 100,000 คนแล้ว
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (12 ก.ย. 63) เฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn ของ นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์หัวข้อ “ประชาชน อดทนมานานแล้ว อย่าให้หมดความอดกลั้นขันแตก”
โดยระบุว่า “อีแอบมุดอยู่ใต้ง่ามขาเด็ก ออกมาโวยวายว่า ธรรมศาสตร์ผลักเด็กออกสู่อันตรายบนถนน ลืมแล้วเรอะ 6 ต.ค. เหมือนปิดประตูตีแมวในธรรมศาสตร์
6 ต.ค. คนเพียงกลุ่มเดียว อ้างว่า โกรธแค้นที่ นศ แสดงละครลบหลู่สถาบันฯ แต่ครั้งนี้ประชาชนหลายสิบล้านคน จับตามองพฤติกรรมชั่วช้าเลวทรามของกลุ่มปลดแอกที่ใช้นักศึกษาบังหน้า เหมือนเอาหนังเสือคลุมหมา แล้วแสดงความโอหังก้าวร้าวหยาบช้า โจมตีใส่ร้ายกล่าวหาล่วงเกินสถาบันอย่างออกหน้าท้าทาย เหมือนจงใจให้คนทำร้ายพวกมัน
ธรรมศาสตร์ทำถูกแล้ว ที่ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ เพราะไม่มีใครรับประกันได้ว่า ผู้คนที่เคารพรักเทิดทูนสถาบัน จะอดทนอดกลั้นกับพวกมันได้นานแค่ไหน ถ้าถึงจุดที่ขันแตกขึ้นมา ผู้ให้สถานที่ต้องรับผิดชอบด้วย
และ โพสต์ด้วยว่า อย่าดื้อรั้นพาลูกหลานชาวบ้านไปตาย
ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี โพสต์ขอความว่า ก่อน 6 ต.ค. 19 ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ อธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ได้ส่งท่านไปพบกับนายสุธรรม แสงปทุม เลขาธิการสหพันธ์นักศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อขอร้องให้ระงับการชุมนุมประท้วงต่อต้านการกลับมาของ พลเอก ถนอม ในธรรมศาสตร์ เพราะ ดร.ป๋วย คาดว่าจะเกิดเหตุมีคนทำร้ายนักศึกษา
แต่ นายสุธรรม ยืนยันจะชุมนุมประท้วงในธรรมศาสตร์ โดยกล่าวว่า นศ. เป็นลูกหลานคนไทย “ประชาชนจะเป็นเกราะทองแดงกำแพงเหล็กปกป้องไม่ให้ใครทำร้ายนักศึกษา”
เมื่อขอร้องเจรจาไม่เป็นผล ดร.ไตรรงค์ กลับ หลังจากนายสุธรรมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า มติของสหพันธ์นักศึกษาแห่งประเทศ ให้ชุมนุมในสนามฟุตบอลธรรมศาสตร์
ดร.ไตรรงค์ โพสต์ข้อความเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะเป็นห่วงกังวลว่า การชุมนุมในธรรมศาสตร์อาจเกิดเหตุร้ายเหมือน 6 ต.ค. 19 ถ้าพิจารณาจากพฤติกรรมก้าวร้าวห้าวเป้งของแกนนำเยาวชนปลดแอกแล้ว ความกังวลของ ดร.ไตรรงค์ ควรนำมาประกอบการพิจารณา
ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพฤติกรรมหยาบช้า ท้าทายเลวร้ายของแกนนำปลดแอกได้ แต่สำหรับผู้ปกครอง พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายของนักเรียน นักศึกษา เยาวชนคนรุ่นใหม่ #ถ้าไม่ต้องการให้ลูกหลานบาดเจ็บล้มตาย เสียอนาคตเหมือน 6 ต.ค. 19 ก็ควรแนะนำตักเตือนให้สติแก่ลูกหลานว่าอะไรควรมิควร แต่ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครอง ปู่ย่าตายายเห็นควรด้วย ก็ตามบาย”
วันนี้เช่นกัน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้ นายแก้วสรร อติโพธิ ซึ่งคัดค้านการใช้ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นที่จัดชุมนุม ระบุว่า
“ฟังการแถลงข่าวของ นายแก้วสรร อติโพธิ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์แล้ว ไม่แน่ใจว่า พี่แกจบจากธรรมศาสตร์ หรือจบจาก จปร. (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) ถึงได้มีความเห็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยได้ขนาดนี้ ออกมาโวยวายเราจะไปทำเนียบ ถือเป็นเผด็จการ แล้วไอ้ที่พันธมิตรยึดทำเนียบครึ่งค่อนปีนี่ คุณแก้วสรรจะเรียกว่าอะไรครับ”
ขณะเดียวกัน นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“บทบาทของคนรุ่นไหนๆ นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมี เพราะบ้านนี้เมืองนี้เป็นของพวกเราทุกคน ยิ่งคนรุ่นใหม่ด้วยแล้วยิ่งต้องมี ถ้าไม่มีก็ต้องกระตุ้นให้มีขึ้นให้ได้ เพราะพวกเขาต้องรับผิดชอบบ้านเมืองต่อไป การที่คนรุ่นใหม่ตื่นตัวออกมาแสดงความคิดเห็นและเรียกร้องในเรื่องต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ดี และความเชื่อมั่นตัวเองของคนรุ่นใหม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน แต่ขอให้ใช้เหตุผล ไตร่ตรองให้ดี อย่าใช้อารมณ์ และอย่าให้ถึงกับดื้อรั้น ดึงดัน ไม่ฟังเสียงคนอื่นๆ เลย มันจะตกหลุมพรางกับดัก เป็นเหยื่อให้กับคนอื่นๆ ได้ง่าย บทเรียนอย่างนี้มีตลอดมาในประวัติศาสตร์การเมืองไทย คนรุ่นเก่าแบบผมไม่ออกมาพูดมาเตือนก็ไม่รู้จะเกิดมาบนแผ่นดินนี้ ทำไมครับ
เวลานี้ ผมมองดูการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเด็กๆ ลูกหลานเราแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “เป็นห่วง และไม่สบายใจอย่างยิ่ง” เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดซ้ำย้อนไปมาในอดีต ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆ ในสมองของผม ทั้งที่เคยพบมาเอง ตอนเป็นเด็กเหมือนพวกเขาและในตอนมาทำงานดูแลด้านความมั่นคงแล้ว....
บอกตรงๆ ไม่ได้รู้สึกเหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เลย แต่นึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519! ขึ้นมามากกว่า มองด้วยใจหวั่นเกรงว่า โศกนาฏกรรมเช่นนั้นจะย้อนมาอีกครั้ง โดยมีลูกหลานเราวันนี้เป็นเหยื่อ อยากจะบอกลูกหลานไทยให้พึงตระหนักเถิดว่า ศัตรูที่แท้จริงของประเทศนี้ บ้านเมืองนี้และของท่าน คือ นายทุนชั่ว นักการเมืองเลว และพวกคลั่งปฏิวัติ ที่กำลังหมดทางไปนั้นต่างหาก ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณกำลังต่อต้านหรอกครับ ช่วยกันกำจัดคนเหล่านี้ออกไปจากหน้าการเมืองไทย เรื่องอื่นๆ พวกเราคนไทย ทุกคน ทุกรุ่น ช่วยกันแก้ไขให้ดีได้ แน่นอน
พร้อมกันนั้น ก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างลูกหลาน ดูแลพวกเขาอย่างเข้าใจและมีเมตตา อย่างถึงที่สุดครับ!!!”
ด้าน “พี่ศรี” นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า...
“ขอเตือนน้องๆ กลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อ มธ.ไม่ให้ใช้พื้นที่ บุกตัดกุญแจเข้าไปเจอข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน คุกรวม 4 ปี นะครับ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การเคลื่อนไหวของ กลุ่มไทยภักดี ซึ่งประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า จะปกป้อง 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ดูเหมือนมีเกม “ปฏิรูปสถาบัน” รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์หัวข้อ “#ถามประชาชนหรือยัง”
เนื้อหาระบุว่า “ต้องขอขอบคุณท่านชวน หลีกภัย ที่ท่านให้คำแนะนำพวกเราว่า การลงชื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องรวบรวมให้ถึง 50,000 รายชื่อก็ได้
สิ่งนั้นพวกเรากลุ่มไทยภักดีเข้าใจครับ เพราะพวกเราไม่ได้เสนอกฎหมาย แต่เจตนาของพวกเรา ต้องการเปิดพื้นที่ให้ประชาชน เจ้าของเสียง 16.8 ล้านเสียง (ที่ผ่านประชามติรับรัฐธรรมนูญ) ส่งเสียงเตือนนักการเมือง เพื่อแสดงพลังให้ทราบ และให้เคารพการตัดสินใจที่ผ่านมาของประชาชน
ดังนั้น การแสดงพลัง จึงจำเป็นต้องเชิญชวน ประชาชนมาร่วมลงชื่อมากๆ ครับ ขณะนี้ผ่านไปสองวัน มีประชาชนมาร่วมลงชื่อเกินแสนคนแล้ว และจะยังเปิดต่อไปจนถึง 20 กันยายนนี้ครับ
#ถามประชาชนหรือยัง”
เช่นเดียวกัน นางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ “อุ๊” นักร้องชื่อดัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก หฤทัย ม่วงบุญศรี ระบุว่า
“หนึ่งแสนรายชื่อเมื่อเวลาประมาณ 18:30 น.(วันที่ 11 ก.ย. 63)
ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจากเฟซบุ๊ก หฤทัย ม่วงบุญศรี”
แน่นอน, ประเด็นสำคัญคือ การเคลื่อนไหวทางการเมือง ของทั้งฝ่ายที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบัน กับฝ่ายที่ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสถาบัน
โดยฝ่ายแรก อาศัยม็อบเยาวชนปลดแอก หรือ คณะประชาชนปลดแอก และแนวร่วมการชุมนุมของ นักเรียนนิสิต นักศึกษา เป็นหัวหอกทะลุทะลวง กดอัดถึงเพดานสูงสุด ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า อาจมี “อีแอบ” ที่เป็นนักการเมืองไทยบางกลุ่ม และองค์กรต่างประเทศ อยู่เบื้องหลัง และที่สำคัญ ฝ่ายนี้กำลังจะมีการชุมนุมครั้งใหญ่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พ่วงปัญหา ผู้บริหาร ม.ธรรมศาสตร์ ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่อยู่ในเวลานี้
ส่วนฝ่ายหลัง หัวหอกก็คือ กลุ่มไทยภักดี และ องค์กรแนวร่วม โดยเฉพาะไทยภักดี กำลังเคลื่อนไหวล่ารายชื่อประชาชน เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของ ม็อบเยาวชนปลดแอก เพื่อแสดงพลังของเสียงประชาชนอีกส่วน อย่างที่ “หมอวรงค์” อธิบาย โดยตั้งเป้าเอาไว้ 50,000 รายชื่อ แต่เวลานี้ก็ทะลุ 100,000 รายชื่อไปแล้ว
นั่นก็หมายความว่า ประเด็นของ “ลุงสุทิน” น่ารับฟังอย่างยิ่ง เพราะต้องไม่ลืมว่า ฝ่ายที่รักและหวงแหนสถาบัน ก็มีอยู่ไม่น้อย ทั้งอาจกล่าวได้ว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศด้วย
ดังนั้น อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อการแสดงออกอย่างก้าวร้าวของม็อบเยาวชน ก็ไม่แน่ว่า คนกลุ่มนี้จะอดทนอดกลั้นได้ถึงที่สุดหรือไม่ และถ้าไม่อะไรจะเกิดขึ้น
สิ่งเหล่านี้นี่เอง ที่ผู้มีประสบการณ์ต้องการจะย้ำเตือน เพราะไม่อยากเห็นคนไทยด้วยกันต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง เพราะสุดท้ายก็คนไทยที่ต้องเสียน้ำตา และ ทับถมกระดูก “วีรชน” ไม่รู้จบ ยิ่งถ้ามีผู้อยู่เบื้องหลังจริง ยิ่งน่าเศร้าใจหลายเท่าพันทวี และไม่น่าภูมิใจที่จะบันทึกประวัติศาสตร์แม้แต่นิดเดียว หรือไม่จริง?