“บิ๊กตู่” มอบ ผบ.ตร.แจงรับมือม็อบ ยันไม่รุนแรงรู้ตัวละครหมด พร้อมคุยเองหน้างาน

“บิ๊กแป๊ะ” รับมอบ นายกฯ แจงแผนรับมือชุมนุมใหญ่ ย้ำอดทน-ไม่รุนแรง แฉรู้ตัวละครหมด ยัน ตร.ไม่สร้างเงื่อนไข เมินแผนกรกฎ 52 ไม่นิยมรุนแรง ห่วงมือที่ 3 ยันจะดูแลให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด เกาะติดคุยเองหน้างาน

วันนี้ (10 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 19-20 กันยายนนี้ โดยใช้ชื่อว่า “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร” ว่าขณะนี้รับฟังการข่าวอยู่ว่าทางผู้ชุมนุมจะทำอะไรบ้าง เบื้องต้นรับทราบจากฝ่ายข่าวว่าจะมีการชุมนุมในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะใช้พื้นที่สนามหลวง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เบื้องต้นเขายืนยันว่าจะใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อน เมื่อถามว่า ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนมาที่สนามหลวงจะอนุญาตหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์ตรงนั้น เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนที่มาที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย จะอนุญาตหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็ต้องคุยกัน

เมื่อถามย้ำว่า ทางฝ่ายตำรวจจะอนุญาตให้เคลื่อนย้ายได้หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องคุยกันที่หน้างาน วันนี้ตนยังตอบอะไรไม่ได้ หากมาแล้วปลอดภัย หรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องดูมันมีปัจจัยหลายอย่าง เมื่อถามว่า ผู้ชุมนุมได้ยื่นขอใช้พื้นที่การชุมนุมหรือยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องยื่นภายใน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มายื่น เท่าที่ทราบ เมื่อถามว่าปัจจัยอะไรที่จะทำให้ไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มันมีหลายปัจจัย ดูที่ความปลอดภัย แต่สิ่งไหนที่เป็นส่วนของเขา เราก็ต้องดูอนุญาตเขาไป

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่อดทนอย่างเดียว อย่าใช้ความรุนแรง นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงตรงนี้อยู่แล้ว ในเรื่องที่จะมีการปะทะฉุดกระชากกัน ปกติเราจะหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว ตำรวจไม่สร้างเงื่อนไขแน่นอน รู้อยู่แล้วว่าผู้ชุมนุมเป็นอย่างไรเราระวังตัวอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า จากการข่าวคิดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมครั้งนี้ได้หรือไม่อย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ต้องอยู่ที่การพูดคุยด้วย ทุกม็อบส่วนใหญ่จะมีแกนนำ มีคนประสานกันอยู่แล้ว อันไหนได้ไม่ได้อย่างไรก็ว่ากันเราอะลุ้มอล่วยอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเป็นห่วงว่าจะมีมือที่ 3 หรือไม่ เพราะมีการดักคอว่าจะมีการใช้อาวุธต่างๆ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เราก็กังวลเรื่องมือที่ 3 อยู่แล้ว ถ้ามีหรือไม่มี ตนคิดว่าไม่มีจะดีกว่า แต่เราก็ต้องป้องกันอยู่แล้วเรื่องมือที่ 3 ไม่ว่าม็อบไหนก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์เขาจะชุมนุมกี่วัน ผบ.ตร.กล่าวว่า เบื้องต้นจากการข่าวประมาณไม่เกิน 2 วัน

เมื่อถามว่า การข่าวการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมจากธรรมชาติหรือมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตรงนี้ยังไปไม่ถึงตรงนั้น ขออนุญาตไม่เปิดเผยดีกว่า แต่เรารู้ตัวละครอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร ใครทำอะไร แบ่งกันทำอย่างไร เรารู้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะมีอะไรฝากถึงกลุ่มม็อบหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ขอฝากทุกม็อบไม่ใช่เฉพาะม็อบนี้ ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายจะดีที่สุด และวันนี้นายกฯ ได้มอบหมายให้ตนมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน

เมื่อถามว่า กลุ่มชุมนุมบอกไว้ว่าหากจำนวนผู้ชุมนุมเกิน 50,000 คนจะขอขยับไปใช้พื้นที่สนามหลวง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จะกี่คนก็แล้ว แต่ ตนว่าถ้าเขาตั้งใจที่จะขยับเขาก็ขยับ แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เรื่องกฎหมายตนบอกทุกครั้ง กฎหมายถ้านับ 1 แล้วก็ต้องไป 2-3-4 จึงไม่อยากเห็นน้องๆ ทุกคนอยู่ในสภาพแกนนำในอดีตที่ผ่านมาที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ฝากเป็นข้อคิดข้อห่วงใยจากตนหรือจากตำรวจผู้ถือผู้บังคับใช้กฎหมาย

เมื่อถามว่า ณ ปัจจุบันมีประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การควบคุมผู้ชุมนุมครั้งนี้จำเป็นจะต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เข้ามาร่วมดูแลหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ทหารไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของตำรวจ เมื่อถามว่าจากการประเมินคิดว่าลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเอาม็อบอยู่ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จริงๆ แล้วถ้าพูดคุยธรรมดา หากเขารู้เรื่อง ถ้าพูดจาเข้าใจภาษาเดียวกันไม่ต้องใช้กำลังเยอะ จริงๆ ไม่ได้อยากใช้ตำรวจไปดูแลม็อบเลย แต่เรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่ใช้สัญจรไปมา กลัวตรงนั้น ในความรู้สึกของตนหากอยากจะชุมนุมก็ชุมนุม แต่มันทำไม่ได้ในเรื่องความปลอดภัยของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า ผบ.ตร.บอกว่ารู้ตัวละครกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว คิดว่าจะคุยกันรู้เรื่องหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็ต้องคุย ถ้าเขาอยากให้บ้านเมืองวุ่นวายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนคิดว่าสามารถที่จะคุยได้ในระดับหนึ่ง เมื่อถามว่า ก่อนจะถึงวันที่ 19 กันยายน ตรงนี้จะมีการนำหมายจับไปดำเนินการกับแกนนำที่มีหมายจับอยู่แล้วหรือไม่ ก่อนที่จะมีการชุมนุมหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เราก็พยายามดูบริบทของสิ่งเหล่านี้ด้วยว่าถ้าจับกุมแล้วจะนำไปสู่ความต่อเนื่อง เราก็พยายามหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ผบ.ตร.ใช้กำลังพลเท่าไหร่ในการดูแลการชุมนุมครั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยังไม่ได้เตรียมการเลย แต่ทุกอย่างเราสำรวจหมดแล้วพื้นที่ตรงนั้นมีคนเท่าไหร่อย่างไร อย่างไรก็แล้วแต่ตนต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้มากที่สุด ถามว่า ถือเป็นความยากหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่ยากเพราะตนก็ผ่านม็อบมาเยอะแยะ แต่ที่แปลกกว่าที่ผ่านมาคือมีน้องๆ นักศึกษา มัธยม ประถม ซึ่งความยากง่ายของแต่ละม็อบไม่เหมือนกัน

เมื่อถามว่า การชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ ทางกลุ่มนักศึกษาได้มีการประเมินว่าจะมีแกนนำจากนักศึกษาทั่วประเทศ และกลุ่มปลดแอกมาร่วมด้วยจำนวนมาก พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็เป็นแนวคิดของเขาที่จะสามารถรวบรวมหรือชักจูงใครต่อใครมาก็ได้ ในส่วนนี้เราก็มีฐานข้อมูลในพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีแผนกรกฎ 52 เราไม่นิยมใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว ตนพูดมาตลอด ต้องอดทน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีให้คำแนะนำมาว่าต้องอดทน เจ้าหน้าที่อย่าใช้ความรุนแรงตลอด เมื่อถามว่า การควบคุมการชุมนุมครั้งนี้ มีชื่อแผนหรือไม่พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่มี ก็ปกติดูแลความปลอดภัยทั้งผู้มาชุมนุม พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาด้วย

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่เป็นการวัดฝีมือก่อนที่จะเกษียณอายุราชการไปสมัครผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวยิ้มบ่ายเบี่ยงว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน

เมื่อถามว่า วันชุมนุม ผบ.ตร.จะไปคุยเองที่หน้างานเลยใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ส่วนใหญ่ตนจะอยู่ในพื้นที่อยู่แล้วทุกครั้ง ไม่เคยไปไหน ฝากความห่วงใยถึงน้องๆ ด้วย