“ยุทธพงศ์” แถลงพร้อมสู้ หลังโดน ทร.ฟ้องฐานหมิ่นประมาท ยันสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำไม่ใช่จีทูจี ยกคำพิพากษาคดีรถ-เรือดับเพลิง กทม.เทียบเคียง แถมขอเอกสารจาก ทร.แล้ว 5 ครั้งยังไม่ยอมให้ เตรียมยื่นร้อง ป.ป.ช.เอาผิดแม่ทัพเรือยันนายกฯ วันนี้ (5 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีที่กองทัพเรือแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทกรณีให้ข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำทำให้กองทัพเรือเสียชื่อเสียงว่า ตนเชื่อว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำทางกองทัพเรือไม่มีใครเห็นด้วยทั้งหมด มีคนที่เห็นด้วยกับการจัดซื้อเรือดำน้ำเพียงไม่กี่คน โดยในเอกสารซื้อเรือดำน้ำเป็นชื่อของ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กับบริษัท ไชน่าชิป บิลดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งไม่ใช่เป็นแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจี อย่างที่กองทัพเรือกล่าวอ้าง เพราะตนเองรู้ดีเกี่ยวกับจีทูจี เนื่องจากเคยร้องเรียนการจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร จนกระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ถือเป็นบรรทัดฐานของการจัดซื้อแบบจีทูจีว่าการจะเป็นจีทูจีต้องดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐในทุกขั้นตอนการจัดซื้อ ไม่ใช่เป็นจีทูจีเฉพาะตอนเริ่มต้น แต่กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาลไม่ได้เป็นอย่างที่คำพิพากษาศาลฎีการะบุไว้
เรื่องดังกล่าวมีคำพิพากษาศาลฎีกามาอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเถียงกันว่าใครเป็นของจริงใครเป็นของเก๊ ใครทำผิดไปจากคำพิพากษาก็ถือว่าติดคุกทั้งหมด พร้อมกันนี้ยืนยันว่าเจตนาที่ทำไปเพื่อความบริสุทธิ์ใจในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน การจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นเรื่องสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ พล.ร.อ.ลือชัย หรือเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกเกิดขึ้นสมัยที่ พล.อ.ประวิตรเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่ง พล.อ.ประวิตรบอกว่าทุกอย่างถูกต้องมีเอกสารพร้อมเปิดเผย แต่ตนเองเรียกร้องขอเอกสารมอบอำนาจฉบับเต็มจากกองทัพเรือมาแล้ว 5 ครั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่จนถึงขณะนี้ทางกองทัพเรือก็ไม่ได้มีการนำเอกสารดังกล่าวมาแสดง แต่กลับมาจากแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง ดังนั้นจึงจ้องลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อพิสูจน์กันว่าใครของจริง ใครของปลอม เพราะ ผบ.ทร.หาเรื่องตนก่อน
นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า ตนมีข้อเรียกร้องดังนี้ 1. ให้ ผบ.ทร. และ พล.อ.ประวิตร โชว์หนังสือฟูลส์ เพาเวอร์ ซึ่งเป็นการเรียกร้องเป็นรอบที่ 6 แล้ว 2. ในวันที่ 9 ก.ย.ที่มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ตนจะเอาหลักฐานเด็ดไปแฉเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกที่มีหลักฐานว่าบริษัทที่ขายไม่ใช่รัฐบาลจีน ทำให้เรือดำน้ำลำแรกจมแน่ และจะไม่ได้จ่ายเงินด้วย ที่สำคัญมีหลักฐานชัดว่าบริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co.,Ltd.(CSOC) จริงๆ แล้วไม่ใช่รัฐบาลจีน ถ้าตนเปิดหลักฐานรับรองว่ารัฐบาลตกเก้าอี้แน่ และ 3. เมื่อตนเปิดหลักฐานในการอภิปรายดังกล่าวแล้วจะเอาคืนโดยจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ผบ.ทร.และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าการจัดซื้อดังกล่าวเป็นแบบจีทูจีหรือไม่