ส.ว.กิตติศักดิ์ ค้านตั้ง ส.ส.ร.ยกร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ เพราะไม่มีใครเดือดร้อนจาก รธน.ฉบับนี้ แนะแก้นิสัยนักการเมืองดีกว่า แต่ถ้าแก้รายมาตราตนเห็นด้วย อาทิ แก้ระบบเลือกตั้ง รวมทั้งแก้ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ส.โหวตนายกฯ เพราะหมดความจำเป็นแล้ว
วันนี้ (4 ก.ย.) นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงท่าทีของ ส.ว.ต่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นเสนอญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 23-24 กันยายนนี้ว่า ส่วนตัวขอไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 256 เพราะการเปิดทางให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น ไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขแต่เป็นการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งการจะแก้ไขจำเป็นต้องชี้ให้ได้ว่ารัฐธรรมนูญมีข้อบกพร่องตรงไหนแล้ว จะแก้ส่วนใด มาตราอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้ต้องมาหารือกันให้ชัดเจน ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาเปิดประตูบ้านแล้วจะเข้ามาปรับเปลี่ยนบ้าน โดยที่เจ้าของบ้านไม่รู้เลย แบบนี้ตนคิดว่าไม่เหมาะสม ดังนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยกับการแก้ไขบางมาตรามากกว่า เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือว่าได้รับสมญานามว่าเป็นฉบับปราบโกง จะแก้ส่วนไหนมาคุยกัน แล้วต้องมีเหตุผลว่าจะแก้ไขเพื่ออะไร เพราะในฐานะคนบ้านนอก อยู่กับพี่น้องประชาชน ไม่เห็นว่าจะมีใครเดือดร้อนกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีแต่นักการเมือง ไม่ทราบว่ากี่คนเหมือนกันที่เดือดร้อนจะเป็นจะตาย ตนจึงคิดว่าแทนที่จะแก้รัฐธรรมนูญควรแก้นิสัย สันดานของนักการเมืองน่าจะเข้าท่ากว่า
“รัฐธรรมนูญเปรียบเหมือนเป็นศาสนา แม้จะเป็นนามธรรม แต่การจะปฏิบัติศาสนาต้องมาจากจิตใจคน รัฐธรรมนูญก็เช่นเดียวกัน มันขึ้นอยู่ที่คนปฏิบัติ การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ใช้เงินจำนวนมหาศาล ผ่านประชามติประชาชนกว่า 16 ล้านเสียงแบบนี้ ต้องมีเหตุผลกันว่าจะแก้เพื่ออะไร ส่วนตัวจึงอยากให้ไปแก้ที่นิสัยของนักการเมืองดีกว่า” นายกิตติศักดิ์กล่าว และว่า ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะแก้ไขรายมาตราก็มีหลายเรื่องที่เห็นด้วย อาทิ ระบบเลือกตั้ง หรือแม้แต่การตัดอำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ ส่วนตัวก็เห็นตัวด้วย เพราะสถานการณวันนี้ไม่เหมือนกับวันที่มีการเลือกตั้งครั้งแรกแล้ว วันนั้นจำเป็นต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทำงานต่อ แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยน อำนาจ ส.ว.โหวตนายกฯ หมดความจำเป็นแล้ว สมมติว่าในอนาคตมีการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ท่านจำเป็นต้องเตรียมพร้อมให้ดี เพราะวันนี้ท่านเป็นนักการเมืองแล้ว จำเป็นต้องทำคะแนนความนิยมให้ได้ ส.ส.เพียงพอ โดยไม่ต้องมาพึ่งเสียงของ ส.ว.เหมือนกับการโหวตเลือกนายกฯ รอบแรกที่แม้ ส.ว.จะยกมือให้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับ ส.ว.ด้วยว่า วันนั้นลำพังเสียง ส.ส.ก็เพียงพอที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะได้เป็นนายกฯ อยู่แล้ว