โฆษก กห.แจง ทร.เสียสละงบฯ ช่วยโควิด 2 ปี รวม 7,300 ล้าน อัดฝ่ายค้านโจมตีสัญญาเรือดำน้ำลำแรก โยงโครงการลำที่ 2-3 บิดเบือน นายกฯสั่งเหล่าทัพให้ความสำคัญการซื้ออาวุธ โดยรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี พึ่งพาตัวเอง
วันนี้ (31 ส.ค.) พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำว่า เป็นโครงการภายใต้วงเงินของกองทัพเรือ (ทร.) ผูกพันงบประมาณข้ามปี 2563 ซึ่งผ่านสภาฯ และได้บรรจุในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แล้ว ไม่ใช่โครงการผูกพันงบประมาณปี 2564 อย่างที่มีการเข้าใจกัน เป็นในตามกรอบงบประมาณที่กองทัพเรือได้รับการจัดสรรในทุกปี ไม่ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นกรณีพิเศษ ถือเป็นการตั้งงบฯ ผูกพันปกติ ทั้งนี้ในปี 2563 ทร.ได้ชะลอโครงการเรือดำน้ำไปแล้ว งบประมาณส่วนหนึ่งได้ส่งคืนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโควิด ประมาณ 3,375 ล้านบาท และปี 2564 ก็ได้มีการเลื่อนไปก่อนอีก 3,925 ล้านบาทก็จะอยู่กับที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ งบฯ ในการพิจารณา ทั้งนี้ ไม่อยากให้มีการบิดเบือน เพราะส่วนนี้เป็นงบประมาณในส่วนของ ทร.เอง ไม่ได้รับการจัดสรรให้มากขึ้น ในภาพรวมกองทัพได้งบประมาณทั้งหมด 6.77 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณทั้งหมด
พล.ท.คงชีพกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางยุทธศาสตร์เชื่อมโยงระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลมูลค่า 24 ล้านล้านบาทต่อปี ประกอบด้วยอุตสาหกรรมขนส่งทางทะเล คิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ หรือ 20 ล้านล้านบาท เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับปิโตรเลียมที่มีอยู่ 30 แท่นขุดเจาะ มีคนทำงานอยู่เป็นหมื่นคน มีมูลค่า 3 แสนล้านบาท ภาคประมงอีก 2 แสนล้านบาท มีชาวประมงที่ประกอบอาชีพหลายแสนคน การท่องเที่ยวอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท เป็นผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลที่เราต้องดูแล นอกจากนั้นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือเจดีเอ ที่กำหนดร่วมกันจะสิ้นสุดปี 2572 สถานการณ์ทางทะเลไม่ใช่ว่าจะดี มีความขัดแย้งกันในทะเลจีนใต้ ความไม่ชัดเจนเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นหลังปี 2572 อาจมีความขัดแย้งระดับต่ำที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งได้ ดังนั้น การปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลต้องมีให้ครบทุกมิติ ผิวน้ำ บนฟ้า แผ่นดิน และใต้น้ำ ทร.มองครบทุกมิติโดยเฉพาะมิติใต้น้ำด้วย แต่เขายอมที่จะเจียดงบประมาณที่เกี่ยวข้อกับทางบก ผิวน้ำ บนฟ้า เพื่อให้ลงใต้น้ำให้ได้ เพื่อทำงานให้ครบทุกมิติ ขอเรียนว่ามีความจำเป็นเพราะกว่าจะต่อเรือดำน้ำได้ 6-7 ปีต่อหนึ่งลำ ซึ่งเจดีเอที่จะสิ้นสุดในปี 72 มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอะไรขึ้นได้
โฆษกกระทรวงกลาโหมยืนยันว่า สัญญาที่ทำกันนั้นถูกต้อง ไม่อยากให้มีการบิดเบือน อีกทั้งสัญญาเรือดำน้ำลำที่1 ได้ดำเนินการจบไปแล้ว เมื่อมาถึงการดำเนินการลำที่ 2 และ 3 เราทราบถึงความกังวลของ คณะกรรมาธิการฯ ทางนายกฯ และ รมว.กลาโหม จึงได้ประสานให้กองทัพเรือ ในการเลื่อนการจัดหาไปก่อน ขณะนี้ ทร.ยอมสละงบประมาณในส่วนนี้ ดังนั้น ในรอบแรก 3,375 ล้านบาท และปีนี้ ทร.ก็ยอมเสียสละปี 2564 อีก วงเงิน 3,925 ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด แต่อยากให้มีความเข้าใจในเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล เพื่อให้กองทัพมีความเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล
พล.ท.คงชีพกล่าวอีกว่า ในที่ประชุม รมว.กลาโหม ได้กำชับให้ทุกเหล่าทัพให้ความสำคัญงานวิจัยและพัฒนามากขึ้น โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ประสานกับเหล่าทัพ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในการวิจัยวิทยาศาตร์ เทคโนโลยี โดยให้แสวงหาความร่วมมือกันหน่วยงานนอกกระทรวงกลาโหม ทั้งสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน ที่เป็นภูมิปัญหาของคนไทยในการสร้างนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ เพื่อนำไปสู่การประดิษฐ์และใช้เองในกองทัพเพื่อการพึ่งพาตัวเองอย่างแท้จริง เริ่มตั้งแต่โครงการลำดับเล็กขึ้นมา ส่วนยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นต้องซื้อ ให้มีการพิจารณาเงื่อนไขในการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กองทัพ และให้พิจารณาซื้อจากในประเทศก่อนโดยเฉพาะยุทโธปกรณ์ภายใต้บัญชีนวัตกรรมที่กำหนด