“วิษณุ” ชี้คดี “บอส ” เริ่มต้นกระบวนการใหม่ แย้มผลสอบ กก.ชุด"วิชา"ให้ดำเนินคดีอัยการ-ตำรวจ และข้อเสนอปฏิรูป

“วิษณุ” ยอมรับคดี “บอส วรยุทธ” เริ่มต้นกระบวนการใหม่ หลังถูกแจ้ง 3 ข้อหา ชี้ชัดสามารถแจ้งอินเตอร์โพลจับตัวส่งไทยได้ เผยข้อเสนอ กก.ชุด "วิชา" มีทั้งการดำเนินคดีอัยการ-ตำรวจ และเรื่องการปฏิรูประบบ

วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานอินเตอร์โพลจับตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เพื่อจับตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่าตนไม่รู้ว่าตำรวจส่งไปขอหรือไม่ ทราบเท่าที่สื่อลงข่าวเช่นกันว่ามีการตั้งข้อหาใหม่ 3 ข้อหา เมื่อตั้งข้อหาใหม่แล้วทางคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานก็ต้องหยุดพิจารณาคดีเพราะถือว่าคดีไปอยู่ในอำนาจศาลแล้ว ดังนั้นจึงสามารถออกหมายจับและแจ้งไปที่อินเตอร์โพลได้หากต้องการตัวนายวรยุทธ และเชื่อว่าอยู่ต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้เท่ากับเป็นการเริ่มต้นคดีใหม่เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่

นายวิษณุกล่าวต่อว่า สำหรับการจัดทำรายงานฉบับใหญ่ของคณะกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จะมีการส่งรายงานให้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้ส่งตามรอบ 10 วันมาสองครั้งแล้ว และเมื่อส่งแล้วก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรีว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้ ต้องดูด้วยว่าชุดกรรมการของนายวิชาได้เสนอแนะอะไรมาบ้าง

นายวิษณุกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ข้อเสนออาจแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ข้อเสนอแนะในเชิงคดีที่เกี่ยวกับตำรวจและอัยการ หรือบุคคลอื่น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การดำเนินคดี หรือนำไปสู่การทำคดีใหม่ ก็แล้วแต่ว่าเขาเสนออะไร ส่วนอีกข้อเสนอแนะหนึ่งคือ ข้อเสนอในเชิงปฏิรูป ซึ่งตอนนี้มีการเสนอจากที่อื่นมาส่วนหนึ่งแล้วก็จะนำมาผสมกันแล้วทำเป็นแอ็กชันคือการกระทำโดยที่ไม่ต้องแก้กฎหมาย เช่น อาจไปเปลี่ยนเลย หรืออาจต้องไปแก้กฎหมายที่เรามีอยู่ในมือแล้วที่กำลังจะแก้ไข และเตรียมเสนอสภาอยู่แล้วก็จะนำไปปรับปรุงพร้อมกฎหมายนั้นเสียเลย

นายวิษณุกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม นายวิชาได้ขอเวลาอีก 30 วัน เพื่อทำในเรื่องของการปฏิรูป โดยที่ไม่เกี่ยวกับคดีเพราะคดีถือว่าจบลงแล้ว แต่สิ่งที่นายวิชาและคณะกรรมการจะทำต่อไป จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิรูปว่า เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนจะต้องไปแก้อะไรตรงไหน จึงได้ขอเวลาทำต่อ และเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม