นายกฯ พร้อมคณะรัฐมนตรีสัญจรลงพื้นที่ระยอง ชมเครื่องมือแก้ปัญหามลพิษในพื้นที่ เกษตรอัจฉริยะ และพลังงานทดแทน
วันนี้ (25 ส.ค. 63) เวลา 07.30 น. ณ โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น อ.เมืองฯ จ.ระยอง ก่อนการประชุมประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมกิจกรรมโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดังนี้ 1) บูทแอปพลิเคชัน depa PM 2.5 (EEC) ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เข้ากับระบบ NB-IoT Network ส่งข้อมูลเข้า Data Center ประมวลผล รายงานข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน “depa PM 2.5” ซึ่งเป็นเครื่องมือให้ประชาชนได้ใช้รับมือกับปัญหาฝุ่นควันและมลพิษ อีกทั้ง ยังได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อใช้ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศ โดยนำร่องจะในพื้นที่ 3 จังหวัดในอีอีซี (ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา) ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีโรงงานขนาดใหญ่ และระบบการขนส่งทั้งทางรถบรรทุกและเรือจำนวนมาก 2) บูทของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ “GC ที่ได้ให้ความสำคัญต่อการรักษ์โลก ให้หันมาใช้พลังงานทดแทน หรือการนำขยะบางประเภทกลับมาใช้เป็นส่วนประกอบและแปรรูปเป็นสินค้าใหม่ เพื่อลดปัญหาขยะจำนวนมหาศาลที่เกิดจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยได้นำนายจิรศักดิ์ ปิตุรักษ์วงศ์ อายุ 57 ปี ที่สร้างสรรค์จากขยะมาสร้าง เป็นชิ้นงานศิลปะ และนำออกขายมีรายได้ศิลป์อาร์ตเขียนรูป
ภายหลังจากชมนิทรรศการ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมสินค้าโอทอประยอง ที่นำวัสดุเหลือใช้มาแปรรูป สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่ม ซึ่งนายกรัฐมนตรีเสนอแนะให้นำทักษะต่างๆ เหล่านี้บรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อให้เยาวชนและนักเรียนเกิดการเรียนรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ สำหรับในพื้นที่ eec ต้องเตรียมพร้อมทั้งพลังงานและโครงข่ายโลจิสติกส์เชื่อมโยงอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เกิดการสร้างงานอย่างแท้จริง
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้กระทรวงเดียวทำไม่ได้ งานหนึ่งชิ้นหรือสินค้าหนึ่งอย่าง ต้องมาจากทำงานร่วมมือของหลายกระทรวง ที่บูรณาการร่วมกัน วันนี้รัฐบาลทำงานในทุกมิติ เน้นการตลาดนำการผลิต คำนึงถึงการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า การใช้เทคโนโลยีควบคู่วิถีธรรมชาติที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน ส่งเสริมเทคโนโลยี เช่น แอปพลิเคชันเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 การจัดการขยะ เกษตรอัจฉริยะ เกษตร BCG สร้างความเชื่อมั่น ลดความเหลื่อมล้ำ ดูแลกลุ่มเปราะบาง
“ทั้งนี้ การทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหา แต่รัฐบาลมีมาตรการป้องกันที่ดีพอ เช่น การแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งจะนำแนวทางนี้ ไปขับเคลื่อนการทำงาน ขับเคลื่อนสังคมไทยตามแนวทางรวมไทยสร้างชาติ ต้องคิด ทำให้กับเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ที่สำคัญทุกคนต้องเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ก่อนการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง)