นายกฯ ยันฟังทุกฝ่ายไม่เกลียดใคร ถือว่าทำให้ชาติ ฝากพ่อแม่ลูกหลานรักษาความเป็นไทย

“บิ๊กตู่” รับฟังผู้ประกอบการระยอง ย้ำ วันนี้เป็น ปชต. มีพรรคร่วม-รับฟังความเห็นสองทาง ฝากพ่อแม่-ลูกหลานรักษาความเป็นไทย ความรัก-สามัคคี พูดจากันดีๆ ยันฟังทุกฝ่าย ไม่เคยเกลียดใคร เพราะถือกำลังทำให้ประเทศ ขออย่าทำให้วุ่นวาย

วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในจุดที่ 3 การเยี่ยมชมตลาดสินค้าครบวงจรเทศบาลบ้านเพ (ตลาด 100 เสา) ต.เพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พบปะกับชาวระยองและตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัด พร้อมเยี่ยมชมตลาดที่จำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อของ จ.ระยอง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ ทำการปิดถนนตั้งแต่ถนนทางเข้าใช้หาดบ้านเพ และบริเวณโดยรอบตลาด โดยมีการนำแผงเหล็กกั้นมาวาง พร้อมติดตั้งเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ตรวจบัตรประชาชนผู้ที่จะเดินทางเข้าออกอย่างเข้มงวดและติดสติกเกอร์ให้เห็นอย่างเด่นชัด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อสกรีนบุคคลที่เห็นต่าง โดยเฉพาะกลุ่มที่จะมาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านนายกฯเพื่อป้องกันการแสดงสัญลักษณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำแต่ละจุดห่างกัน 5 เมตร โดยตลอดช่วงเช้าจนถึงช่วงงานเจ้ากน้าที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาจับจ่าย ซื้อสินค้า มีเพียง อสม.ที่มารอต้อนรับและให้กำลังใจ

ทั้งนี้ ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางก็ได้ชิมทุเรียนทอดทันที พร้อมระบุว่าเป็นของชอบ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจที่มาพบปะชาวระยอง และตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจ ซึ่งหวังจะได้รับฟังข้อเสนออันเป็นประโยชน์ วันนี้เป็นที่ทราบดีว่าเรากำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบากและช่วงวิกฤต ตนฟังท่าน ท่านก็ฟังตน ไม่เคยปิดกั้น และจะบังคับใครข้างเดียวไม่ได้ ขณะเดียวกัน วันนี้หลังสถานการณ์โควิด-19 รู้สึกดีใจที่ได้รับรายงานว่าทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ซึ่งตนเข้าใจดีความยากลำบากในช่วงที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้ ก็ยังจำเป็นต้องเข้มงวดต่อไป ดังนั้น อย่าให้รัฐบังคับเพราะจะไม่เป็นผลดี จึงขอให้ร่วมมือกันโดยอยากให้ฟังสองทาง ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีปัญหากับใครและบังคับใครไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เห็นศักยภาพของ จ.ระยอง ทั้งด้านเกษตร การท่องเที่ยวและด้านอื่นๆ ซึ่งทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และความมีเสถียรพภาพของรัฐบาล หลายอย่างอาจเร็วบ้างหรือช้าบ้าง แต่ไม่ง่ายนักในการบริหารบ้านเมืองในสถานการณ์วันนี้ ดังนั้น ฝากชาวระยอง ฝากพ่อแม่ ผู้ปกครองและลูกหลานขอให้รักษาความเป็นไทย ความรัก สามัคคี อะลุ่มอะล่วย และพูดจากันดีๆ เราขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น เราจะโดดเดี่ยวและเกิดปัญหาไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันจะทำอย่างเต็มที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มี รองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายคนมาลงพื้น ซึ่งทุกคนมาจากหลายพรรคร่วมรัฐยาล นี่คือประชาธิปไตยที่แท้จริงที่มาจากหลายภาคส่วนและต่างคนต่างรับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน ซึ่งหลายอย่างตนทราบดีถึงความเดือดร้อนของประชาชน บางอย่างหากแก้เร็วก็ดีแต่ปัญหาจะพอกต่อไปหรือไม่ต้องดูด้วย แต่สัญญาว่าอะไรที่ตนทำให้ได้ก็จะทำ ในทุกพื้นที่ และย้ำว่า วันนี้เดือดร้อนกันทุกประเทศ และหลายประเทศก็เห็นศักยภาพของเรา แต่เขาขออย่างเดียวอยากให้สานต่อไป ไม่ใช่หยุดแล้วเริ่มต้นใหม่ ซึ่งนี่เป็นมุมมองของหลายประเทศที่มีต่อเรา

จากนั้น นายกฯและรัฐมนตรีที่ร่วมคณะนั่งพูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและผู้จำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปจังหวัดระยอง ซึ่งตัวแทนผู้ประกอบการได้นำเสนอแนวทางการดูแลผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ขอให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายมาตรการผ่อนคลายภาระ ให้กับประชาชน ผู้ประกอบการที่รัฐบาลได้อนุมัติไว้ออกไปจากเดิม ที่หลายมาตรการจะหมดระยะเวลาดำเนินการแล้ว พร้อมขอให้พิจารณามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟโลน ให้กับผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ ยังเรียกร้องให้จัดกิจกรรมนำประชาชนศึกษาดูงานท่องเที่ยวระดับชุมชนในจังหวัด เพื่อช่วยนำรายให้กับห่วงโซ่การท่องเที่ยว และขอให้จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าขาย หรือ อีเว้นท์ขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

โดยนายกฯกล่าวว่า ตนพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกคนและเห็นใจความเดือดร้อนของทุกคน สิ่งที่ขอมาตนรับไปพิจารณา แต่ทั้งนี้ ต้องขอไปดูเรื่องของงบประมาณด้วย ที่ต้องใช้คุ้มค่าค้วย ส่วนที่เอสเอ็มอีระบุไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้นั้นก็ต้องไปดูว่ามีปัญหาอุปสรรคตรงไหน มาบอกว่ามีเงินเยอะเยอะอยู่ในธนาคารแต่เงินในธนาคารก็เป็นของประชาชนคนอื่นด้วย แล้วจะเอามาใช้เรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ มันคงไม่ได้ ธนาคารก็จะล้ม จะสร้างความเกลียดชังกันไปเรื่อย บอกนี้คนรวย นี้คนจน วันนี้เราต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังปัญหา

วันนี้ตนมาเพื่ออธิบาย และต่างต้องรับฟังกัน จะได้หาวิธีแก้ไขได้ตรงประเด็น หากล้มทุกอย่างวันหน้าก็ตายกันไปอีกให้วันนี้ยังทำงานได้เดินหน้าไปเดินหน้าไปให้ได้ก่อน สถานการณ์มันบีบรัดพวกเราเหลือเกิน แม้ตนไม่ได้ค้าขายกับท่านแต่ตนก็เดือดร้อนเหมือนท่าน เพราะตนรับผิดชอบแล้วทุกคนก็ต้องรับผิดชอบกับตนไปด้วย ไม่มีใครปฏิเสธเพราะนั่นคือหน้าที่ของเรา เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความเหมาะสมและเท่าเทียม เวลาเราคิดมันอยู่ในหัวแต่เวลาทำมันยากต้องหาทางทำให้ได้ ร่วมมือกันไม่ขัดแย้งกัน และค่อยๆ ทำไปซึ่งมันจะทำได้ สิ่งที่ขอมาก็จะดูว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้ก็จะให้แน่นอน ไม่ใช่ก็เจ๋งกันไปทั้งหมด

“ผมว่าไม่มีรัฐบาลไหนฟังท่านเท่ารัฐบาลนี้ทีวีผมก็ฟังไม่เคยโกรธท่านไม่เคยเกลียดท่านให้เจอกันต่างๆ ก็เฉยๆ ตนถือว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ประเทศชาติสำคัญที่สุดประชาชน นี่คือ สิ่งที่รัฐบาลต้องการให้เกิดความร่วมมือในทุกๆด้านด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ฉะนั้น อย่าให้ใครมาทำให้เกิดความวุ่นวายมากๆ เลยผมไม่ได้ไปว่าใคร เราอย่าไปสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองมากขึ้นเลย เราต้องแก้ปัญหาเดิมแก้ปัญหาโควิดให้ได้ นี่คือ เจตนารมณ์ของรัฐบาลนี้ รัฐบาลฟังทุกคน ผมฟังทั้งสองฝ่ายและผมก็ไม่ได้ห้ามให้ท่านไปฟังคนอื่น แต่มีคนอื่นห้ามไม่ให้ท่านมาฟังผม มันไม่ใช่มันไม่ถูก” นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า ตนพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดจากสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเต็มที่ ต้องอยู่บนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และมีเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเรื่องไหนทำได้ก็จะทำให้ทันทีทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อย่างที่เคยสัญญาไว้แล้ว โดยความร่วมมือที่มาจากความเข้าใจซึ่งกันและกันของประชาชนทุกคนเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขทุกปัญหาให้สำเร็จได้

จากนั้น นายกฯได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ให้กำลังใจขอให้ทุกคนสู้ๆ และขอให้ขายดีๆรัฐบาลทำเต็มที่รัฐบาลไม่ทุจริตใดๆ แน่นอน ขอให้พวกเราคนไทยรวมกำลังสร้างชาติรัฐบาลได้มีมาตรการหลายอย่างช่วยเหลือ วันนี้รัฐบาลให้กำลังใจทุกกลุ่ม หลังจากพบพ่อค้าแม่ค้าได้ไปพบปะชาวบ้านที่มารอให้กำลังใจ และรับมอบพระเครื่องที่นำมาให้นายกฯเอาไว้เพื่อคุ้มครอง ระหว่างทักทายชาวบ้านนายกฯได้ร้องเพลงไทยรวมกำลังสร้างชาติ พร้อมกล่าวว่า ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็คนไทยด้วยกัน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาที่ตลาด 100 เสาของนายกฯได้ทำการเปลี่ยนรถจากจุดแรกที่ใช้รถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน กล 9900 ระยอง มาเป็นรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กล 33 ระยอง