“อนุสรณ์” สับ “ประยุทธ์” ตีสองหน้า ทำตัวเหมือนรัฐบาลรัฐประหาร เที่ยวคุกคามคนเห็นต่าง หวังทอนกำลังม็อบ เผย กมธ.ปกครองฯเตรียมเรียก “ดีอีเอส-กสทช.-ค่ายมือถือ” แจงปมตัดสัญญาณเน็ต-โทรศัพท์ ในพื้นที่ชุมนุมประชาชนปลดแอก
วันนี้ (17 ส.ค.63) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ท่าทีของรัฐบาลต่อการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องแสดงความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาการชุมนุมเปิดใจรับฟังข้อเรียกร้องของนักเรียนนิสิตนักศึกษาประชาชนอย่างตรงไปตรงมา พล.อ.ประยุทธ์ อย่าทำตัวเหมือนตอนเป็นรัฐบาลรัฐประหาร ข่มขู่ คุกคาม
ลิดรอนสิทธิของประชาชนผู้เห็นต่าง หาวิธีลดทอนขนาดม็อบไม่ได้ ก็อย่าพยายามจัดม็อบชนม็อบ บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความขัดแย้ง ทำให้เกิดการเผชิญหน้าในสังคม ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ของประชาชนปลดแอก คือ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับประชาชน 3.ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน หลังจากมีรัฐธรรมนูญใหม่ ถือเป็นข้อเรียกร้องที่รัฐบาลสามารถตอบสนองได้ทันที
“หากรัฐบาลตีสองหน้า ย้อนแย้ง ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ พูดอย่างทำอย่าง ปัญหาไม่จบ วันนี้ม็อบลามลงไปถึงโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา กระจายตัวไปทั่วประเทศ ยิ่งปล่อยเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ นับวันปัญหาจะยิ่งลุกลามบานปลาย จนแก้ไขได้ยาก” นายอนุสรณ์ ระบุ
นายอนุสรณ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีปัญหาการลดทอนประสิทธิภาพช่องสัญญาณการสื่อสาร จนเกิดปัญหาการสื่อสารในพื้นที่การชุมนุมด้วยว่า คณะทำงานติดตามการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ในคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้รับข้อร้องเรียนถึงปัญหาการสื่อสารในรูปแบบต่างๆในพื้นที่การชุมนุม ทั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะในช่วงที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้จำนวนมาก อย่างเช่น ช่วงเทศกาลต่างๆ หรือกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมมากๆ ผู้ให้บริการทุกค่ายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของช่องสัญญาณ เพื่อให้การสื่อสารครอบคลุมราบรื่นไม่ติดขัด แต่ในการชุมนุมครั้งนี้กลับเกิดปัญหา จนมีการตั้งคำถามว่าผู้ให้บริการละเลย หรือไกลไปกว่านั้น อาจมีการขอความร่วมมือให้ปิดกั้นการสื่อสารของประชาชนในพื้นที่การชุมนุมหรือไม่
“คณะทำงานฯได้รวบรวมปัญหา ทำรายงานให้คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องรับทราบ และเตรียมเชิญกระทรวงดีอีเอส, กสทช., ผู้ให้บริการสัญญาณอินเตอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์มือถือทุกค่าย และผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาให้ข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่า มีการกระทำที่เป็นการลิดรอนสิทธิของผู้ใช้บริการที่มาร่วมชุมนุมหรือไม่ และคณะทำงานฯ จะลงพื้นที่การชุมนุมในส่วนภูมิภาค เพื่อดูแลผู้ชุมนุมไม่ให้ถูกลิดรอนสิทธิในรูปแบบต่างๆต่อไป” นายอนุสรณ์ กล่าว.