เด็ก พปชร.ย้อนแสบ “อนุสรณ์” ตกข่าวไม่รู้ “บิ๊กตู่” เตรียมตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นระบบ รวดเร็วตาม “ศบค.โมเดล” แนะฝ่ายค้านใจกว้าง อย่าใส่ร้ายรายวัน เหน็บกลับไม่ใช่รัฐบาลกู้มาโกงเหมือนในอดีต
วันนี้ (12 ก.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทำงานเหมือนไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน และยังจี้ให้เร่งออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจว่า นายอนุสรณ์น่าจะตกข่าว ไม่สนใจทำการบ้าน หรือศึกษาหาข้อมูลก่อนวิจารณ์ จึงไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีรูปแบบการปฏิบัติงานเช่นเดียวกับศูนย์การบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ขึ้น โดยจะมีนายกฯ เป็นประธาน ซึ่งความรวดเร็วฉับไว ทันสถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่านายกฯ ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างฉุกเฉินเร่งด่วน จึงต้องการให้ศูนย์นี้ขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว ด้วยความเป็นเอกภาพและบูรณาการเช่นเดียวกับ ศบค.
“นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ซึ่งถือเป็นยาแรงในการช่วยเศรษฐกิจฐานรากแล้ว และยังมีการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร ผู้ประกอบการและแรงงานในระบบ รวมถึงมาตรการการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า พักการชำระหนี้ต่างๆ ในช่วงที่มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ต่อมาเมื่อมีการผ่อนคลาย รัฐบาลจึงดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับสภาพการแพร่ระบาดของโควิดด้วย เช่น มาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจให้มากที่สุดจากการท่องเที่ยวภายในระเทศ, มาตรการช่วยผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) โดยค้ำประกันปล่อยกู้วงเงินรวม 4.5 หมื่นล้านบาท และปรับเงื่อนไขกองทุน 5 หมื่นล้านเพื่อบรรเทาปัญหาหนี้เสียของ SMEs ด้วย ทั้งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐก็ลงพื้นที่นำข้อมูลปัญหาที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน นำเสนอสู่พรรคเพื่อเสนอต่อรัฐบาล ทุกอย่างยึดโยงกับปัญหาปากท้องของประชาชนทั้งสิ้น
น.ส.ทิพานันกล่าวอีกว่า รู้สึกผิดหวังที่โฆษกพรรคเพื่อไทยไม่ได้ตระหนักถึงเหตุผลในการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้ว่า เป็นไปเพื่อบังคับใช้เครื่องมือต่างๆ ในเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคิด-19 ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อความมั่นใจ ในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ชีวิตของประชาชน และยังเป็นไปตามข้อเรียกร้องขององค์การอนามัยโลก ที่ให้ประเทศต่างๆ คงมาตรการเข้มงวดในเรื่องนี้ โดยจากการลงพื้นที่เป็นประจำได้สอบถามประชาชนทั่วไปก็จะบอกว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่โฆษกพรรคเพื่อไทยยังคงนำเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาประดิษฐ์วาทกรรมชี้นำสังคม เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการทำงานของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปพร้อมๆ กับการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากมาตรการป้องกันโควิด-19 อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ต้องการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไม่สร้างความเหลื่อมล้ำและต้องโปร่งใส
“รัฐบาลตั้งใจที่จะกอบกู้เศรษฐกิจ ให้ฟื้นกลับคืนมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่สั่งสมมานานเป็นภาระประชาชนมาหลายปี ที่ถูกวิจารณ์ว่ากู้มาโกง ก่อนที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาบริหารประเทศ ฉะนั้นการดำเนินการต่างๆ ต้องรัดกุมและมีคำตอบให้กับประชาชน จึงอยากให้ฝ่ายค้านใจกว้างในการวิจารณ์รัฐบาล ไม่ใช่จับเอาประเด็นมาพูดโจมตีใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นข่าวรายวัน ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน” น.ส.ทิพานันกล่าว