xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวไกลป้อง นศ.เรียกร้องปม รธน. “ไพบูลย์” ซัดทำขัดแย้ง “เทพไท” หนุนล้างผิด ม.112

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ภาพจากแฟ้ม)
“คารม ขออดทนหาทางออกให้ประเทศ เล่นการเมืองมากไม่ได้ ป้อง นศ.เรียกร้องหลักใหญ่คือ รธน. ชี้คิดก้าวหน้าไม่ผิด ไพบูลย สวนชุมนุม นศ.สร้างความขัดแย้ง เทพไท อ้างนายกฯ บอกในหลวงมีรับสั่งไม่ให้ใช้ ม.112 หนุนล้างผิด

วันนี้ (13 ส.ค.) นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายรายงานแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน โดยทราบดีว่าหลายคนรู้สึกกังวลถึงสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งตนเองแม้จะมีความสัมพันธ์อันดีกับไปประกันตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน แต่ถ้าจะให้เห็นด้วยกับสิ่งที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องในทางกฎหมายก็ต้องแยกแยะ และมองว่าขณะนี้ยังไปได้ แต่ทุกคนต้องอดทน นายกรัฐมนตรีก็ต้องอดทนในการบริหารบ้านเมืองฝ่าวิกฤตหรือปัญหาที่เผชิญอยู่ และสภาก็ต้องอดทนหาทางออก เล่นการเมืองกันมากไม่ได้ ต้องคิดหาทางออกให้บ้านเมือง และยังมีปัญหาโควิด-19 มาเป็นเรื่องซ้ำเติมประเทศชาติพออยู่แล้ว พอมาเจอนักศึกษามาเรียกร้อง ต้องเข้าใจว่าที่เรียกร้องหลักใหญ่ใจความก็คือรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเป็นกฎหมายจะมาบอกว่าฉีกทิ้งก็ผิดกฎหมายอาญา จึงเป็นเรื่องที่ต้องเปิดทางให้แก้ไขด้วยความจริงใจ และมองว่าการมีความคิดก้าวหน้าไม่ใช่เรื่องผิด เพราะฉะนั้น สภาผู้แทนราษฎรต้องช่วยกันประคับประคอง สิ่งไหนที่เกินเลยไปจากที่กฎหมายห้ามไว้ก็ต้องว่ากันไป ซึ่งตนเองไม่สนับสนุนใครที่จะทำผิดกฎหมาย

ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ การอภิปรายตั้งข้อสังเกตถึงการชุมนุมและสิทธิของผู้ชุมนุมว่า การสร้างความปรองดองจะต้องไม่สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในกระบวนการสร้างความปรองดอง ซึ่งเกิดปัญหาขึ้นในปัจจุบันคือการชุมนุมที่เกิดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย ไม่ได้เป็นการสร้างความปรองดอง ทำให้ข้อเสนอในรายงานของคณะกรรมาธิการไม่สามารถเดินไปได้ในสถานการณ์ขณะนี้ และไม่รับรายงานฉบับนี้ เนื่องจากข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นต้นเหตุการสร้างความขัดแย้งมาตลอด และฝ่ายที่เรียกร้องให้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล้วนแต่ใช้วาทกรรมโจมตีอีกฝ่ายอย่างรุนแรงทั้งสิ้น ทำให้ฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญดูเป็นคนไม่ดี ส่วนหลักการนิรโทษกรรมเห็นด้วยหากข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติและมีความสงบเพียงพอ แต่น่าเสียดายที่กลับเกิดเหตุการณ์ชุมนุมขึ้น และข้อสังเกตเกี่ยวกับกองทัพในรายงานของคณะกรรมาธิการ เป็นการมองด้วยอคติและความรู้สึกไม่ดี

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเห็นด้วยกับรายงานของคณะกรรมาธิการ ซึ่งข้อสังเกตทั้งหมดสามารถใช้กับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราอื่นๆ และไม่ขัดข้องหากจะมีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นปี จึงเสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ผ่านการประชามติแล้ว มาบังคับใช้เพื่อจัดการเลือกตั้งหากมีการยุบสภา และเห็นด้วยกับข้อเสนอการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองตั้งแต่ 16 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ครอบคลุมถึงคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และคดีทุจริต แต่นายกรัฐมนตรีก็ออกมาย้ำแล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งไม่ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่นิรโทษกรรมผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 นี้ ขอย้ำว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวข้อในรายงานของคณะกรรมาธิการ


กำลังโหลดความคิดเห็น