อสม.เฮ! อีกแล้ว “มหาดไทย” ไฟเขียว อสม.กลุ่มผ่านอบรม กรมอนามัย 70 ชม. มีสิทธิสมัครเข้าโครงการเงินกู้สู้โควิด-19 เป็น“อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น” ดูแลผู้สูงอายุ ที่มีภาวะพึ่งพิง พื้นที่ละ 2 คน รับค่าตอบแทนประจำ 5,000 บาท/เดือน แถมไม่ผิดระเบียบฯ ได้รับค่าป่วยการ รายเดือน 1,000 บาท ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข อีกทอดหนึ่ง ย้ำ โครงการมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการจ้างงานคนในพื้นที่กระทบโควิด-19
วันนี้ (9 ส.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ภายหลัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่งได้รวบรวมหนังสือส่งถึงกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ในฐานหน่วยงานรับงบประมาณโครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง วงเงินไม่เกิน 1,080.59 ล้านบาท หนึ่งในโครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เพื่อสอบถามความชัดเจนกรณี อาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จะสามารถรับสมัครเป็น “อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น” แห่งละ 2 คน ได้หรือไม่ โดยได้รับค่าตอบแทนประจำ 5,000 บาท/เดือน ระยะเวลา 12 เดือน หากเข้าอบรมครบ 70 ชั่วโมง
ล่าสุด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 7 ส.ค. เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด โดยยืนยันว่า อสม. สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ เนื่องจากคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นของ อปท.และการเบิกค่าใข้จ่าย พ.ศ. 2562 ไม่มีกำหนดข้อห้ามไว้แต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ อสม. ได้รับค่าป่วยการ รายละ 1,000 บาท ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าป่วยการของ อสม. พ.ศ. 2542 ถือเป็น “บุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยได้รับค่าตอบแทนประจำ” หรือไม่ ก็ไม่เป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพราะตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วย อสม. พ.ศ. 2545 ข้อ 30 กำหนดว่า “อสม.มีสิทธิได้รับเงินค่าป่วยการในการปฏิบัติหน้าที่ ตามประกาศที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด”
“การได้รับเงินค่าป่วยการเป็นรายเดือนของ อสม.รายละ 1,000 บาท จึงมิใช่ การได้รับค่าตอบแทนประจำ ตามความหมายที่กำหนดในคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 18 ต.ค. 2562 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการเบิกค่าใช้จ่าย พ.ศ. 2562 แต่อย่างใด”
ขณะเดียวกัน หาก อปท.มี “อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น” ประจำพื้นที่อยู่แล้ว และเป็นผู้ช่วยเหลือดูแล ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (Care Giver) อยู่แล้ว อปท.ก็ต้องเปิดสมัครเข้ารับการคัดเลือก ผู้ที่ประสงค์จะเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ฉบับดังกล่าวด้วย
เช่นเดียวกัน หาก อปท. มีผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการดูแล ผู้สูงอายุขั้นกลาง จำนวน 70 ชั่วโมง ที่ได้รับอนุมัติหลักสูตรจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข อยู่แล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถรับสมัครได้และให้เข้าทำหน้าที่อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ได้เลยหรือไม่นั้น กระทรวงมหาดไทย เห็นว่า ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0819.2/ว 4243 ลงวันที่ 21 ก.ค. 2563 กำหนดให้ อปท.ประกาศรับสมัครและคัดเลือกผู้ที่ประสงค์เข้ารับการอบรม โครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น
“ดังนั้น อปท. ก็ต้องดำเนินการประกาศรับสมัคร และดำเนินการคัดเลือกให้ได้ผู้ที่มีความเหมาะสม และประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกแล้ว ส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด (สถ.จังหวัด) เพื่อเข้ารับการฝึกอบรม ให้แล้วเสร็จ”
ส่วนกรณีมีผู้ผ่านการคัดเลือกจากหลักสูตรของกรมอนามัย ถ้า อปท. ได้ตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันได้ชัดเจนว่า เป็นการอบรมตามหนังสือ กระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0819.2/ว 6290 ลงวันที่ 18 ต.ค.2562 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นฯ พ.ศ.2562 แล้ว อปท. อาจแจ้งสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัด ขอไม่ส่งผู้ผ่านการคัดเลือกผู้นั้นเข้ารับการอบรมได้
นอกจากนี้ หากผู้ที่ผ่านคัดเลือก ได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท และยังเป็น อสม.อยู่ยังจะคงได้รับ เงินค่าป่วยการรายเดือนของ อสม. อยู่หรือไม่นั้น กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนเพื่อเป็นค่าป่วยการชดเชยการงาน หรือเวลาที่เสียไป ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0819.2/ว 6290 ลงวันที่ 18 ต.ค. 2562 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น
สำหรับการได้รับเงินค่าป่วยการรายเดือนของ อสม. ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
“และ อปท.ยังสามารถขยายระยะเวลารับสมัครและประกาศรับสมัครจากคนนอกพื้นที่เพิ่มเติมได้ หากไม่มีคนนอกพื้นที่มาสมัคร น้อยกว่า 2 คน หรือ คัดเลือกไม่ครบ 2 คน เนื่องจากโครงการมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการจ้างงานคนในพื้นที่เป็นสำคัญ และอาจประกาศคุณสมบัติเพิ่มเติม ให้คนในพื้นที่ใกล้เคียงกับ อปท.ประสงค์จะเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น ตามระเบียบฉบับนี้”
สำหรับโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 21 ก.ค. และสิ้นสุดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ดำเนินโครงการ ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 - กันยายน 2564 แห่งละ 2 คน รวมจำนวน 15,548 คน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564