เลขาฯ ป.ป.ช.ขอตรวจสอบข่าว อนุ กมธ.แผนบูรณาการ ใน กมธ.งบฯ เรียกเงินตอบแทนแลกกับการไม่ตัดงบฯ ก่อนเรียกอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำมาดาลมาให้ข้อมูล ชี้ ถ้ามีจริง ป.ป.ช.ยกเป็นคดีได้โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ร้อง หากรวบรวมข้อมูลเสร็จทันอาจเสนอกรรมการ ป.ป.ช. 11 ส.ค.นี้
จากกรณีที่การประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่มี น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ซึ่งมีวาระพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในส่วนของ 2 กรม คือ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล งบประมาณ 1,276,572,100 บาท และ กรมทรัพยากรน้ำ งบประมาณ 3,772,802,200 บาท รวมถึง กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 13,103,923,100 บาท นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยข้อมูลโดยในที่ประชุม ว่า มีอนุกรรมาธิการบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ นอกจากนี้ บางกรมยังถูกอนุกรรมาธิการนี้ เรียกถึง 10 ล้านบาท แต่ไม่กล้าเปิดเผยรายละเอียดนั้น (ปูดอนุ กมธ.แผนบูรณาการ 2 สภา อักษรย่อ ม.ม้า ตั้งแก๊งตบทรัพย์แลกไม่ตัดงบ) ล่าสุด วันนี้ (8 ส.ค.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากที่ ป.ป.ช.ได้ทำการตรวจสอบข่าวทุจริตประพฤติมิชอบเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อมีข่าวลักษณะนี้เบื้องต้น ถ้าถามว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกขึ้นมาเป็นเหตุอันควรสงสัยได้เลยหรือไม่ ก็คงยังมิได้เพราะเพียงปรากฏเป็นข่าว แต่จะต้องมีการเข้าไปตรวจสอบก่อน เช่น อาจจะต้องเชิญ นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมน้ำบาดาล มาชี้แจงเนื่องจากเขาเป็นคนพูดเพื่อสอบถามว่ามีการเรียกรับเงินจริงหรือไม่ ถ้ามีการเรียกรับจริงจากคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือกรรมาธิการ ก็อาจนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่ามีข้อมูลเพียงพอ เพื่อจะหยิบยกเหตุอันควรสงสัยขึ้นได้ เพราะหากมีความปรากฏต่อคณะกรรมการว่ามีการทุจริตก็สามารถยกขึ้นมาได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้อง
โฆษก ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะเชิญอธิบดีกรมน้ำบาดาลมาให้ข้อมูลก่อน แต่จะต้องนำเสนอต่อเลขาธิการ ป.ป.ช. และ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อทราบก่อนว่ามีข่าวออกมาเช่นนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฏหมาย เพราะอยู่ๆ จะไปเชิญคนนั้นคนนี้มาโดยที่ไม่มีเหตุไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เหตุปรากฏเป็นข่าวเราจึงต้องตรวจสอบก่อนว่าที่ข่าวลงมานั้นมีการพูดเช่นนั้นจริงหรือไม่ มีเหตุการณ์เช่นนั้นจริงหรือไม่
นายนิวัติไชย กล่าวว่า ทางสำนักการข่าวฯ ของ ป.ป.ช. จะเป็นผู้ประมวลข่าวทั้งหมดเพื่อเสนอต่อเลขาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งเมื่อถูกหยิบยกเลขาฯ ก็จะมีอำนาจในการมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้ลงไปตรวจสอบข้อมูล จากนั้นรายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติโดยตรง ว่า จากเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวก็อาจให้เชิญทางนายศักดามาสอบถามข้อเท็จจริงได้ โดยส่งเรื่องไปยังสำนักที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งถ้าอนุกรรมาธิการฯ งบประมาณอยู่ในข่ายเป็นข้าราชการการเมือง ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของ สำนักไต่สวนทุจริตภาคการเมืองและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
“ขอให้มีการตรวจสอบข่าวเสียก่อน เพราะเบื้องต้นทราบจากที่สื่อมวลชนนำเสนอเท่านั้น ขอให้สำนักการข่าวฯ ได้รวบรวม หากทันก็นำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในวันอังคารที่ 11 สิงหาฯ นี้เลย” นายนิวัติไชย กล่าว