xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการชี้ คกก.คดี “บอส” ไม่ใช่ศาล แค่ประเมินมีมูลหรือไม่ “วิชา” ปัดคดีสิ้นสุดแล้ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณบดีนิติศาสตร์ มธ. มอง คกก.สอบคดีทายาทกระทิงแดง รื้อคดีใหม่ไม่ยาก แต่อยู่ที่ผู้มีอำนาจ ชี้ต้องหาความจริงจะเห็นช่องทาง กม. ย้ำ คกก.ไม่ใช่ศาล แต่ประเมินมีมูลหรือไม่ “วิชา แจงยังไม่หารือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ยันนายกฯ สั่งอัยการไม่ได้

วันนี้ (3 ส.ค.) เวลา 14.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายมุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ว่าที่ประชุมจะมีการตั้งข้อสังเกต ข้อสงสัยจากประชาชนและสังคม ถือเป็นกรอบการทำงานหนึ่งของคณะกรรมการฯว่าข้อสังเกตต่างๆ จะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน

เมื่อถามว่าการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถรื้อคดีใหม่ได้หรือไม่ นายมุนินทร์กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบในเรื่องนี้ เพราะคิดว่าควรให้คณะกรรมการฯ ได้มีการพูดคุยกันก่อน และหลังจากพูดคุยน่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดูแล้วไม่น่าจะยากอะไร เพราะกฎหมายมีทางออกเสมอ อยู่ที่ผู้มีอำนาจจะใช้ช่องทางทางกฎหมาย เพียงแต่ผู้มีอำนาจจะนำช่องทางเหล่านั้นมาใช้หรือไม่

เมื่อถามต่อว่าอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะสามารถไปสั่งการรื้อคดีได้หรือไม่ นายมุนินทร์กล่าวว่า เดาว่านายกฯต้องการให้คณะกรรมการชุดนี้ทำงานโดยอิสระ เพราะตนก็เข้ามาเป็นกรรมการในฐานะนักวิชาการ ซึ่งมีนักวิชาการหลายท่านเข้ามาน่าจะมีความประสงค์ให้มีเป็นอิสระ

เมื่อถามต่อว่าประเด็นที่คณะกรรมการจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือประเด็นใด นายมุนินทร์กล่าวว่า คงไม่ได้โฟกัสประเด็นใดเป็นพิเศษ เพราะทุกประเด็นที่นำเสนอจะประกอบการให้เห็นภาพสิ่งที่สังคมสงสัยคือปัญหาของกระบวนการยุติธรรมทางอาญาซึ่งก็มาจากข้อสงสัยทุกข้อที่รวมกัน

เมื่อถามย้ำว่าคดีนี้ซับซ้อนหรือไม่ นายมุนินทร์กล่าวว่า เชื่อว่าไม่ได้ซับซ้อนตามกฎหมาย แต่ซับซ้อนในข้อเท็จจริง เพราะอยากรู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ต้องหาความจริงให้ปรากฏ และเมื่อความจริงปรากฏก็จะเห็นข้อเท็จจริงปรากฏก็จะเห็นช่องทางทางกฎหมาย

เมื่อถามอีกว่าคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้หรือไม่ นายมุนินทร์กล่าวว่า คิดว่าความตั้งใจเป็นอย่างนั้นแต่คงต้องใช้เวลาสักระยะ ส่วนใช้เวลา 30 วันเพียงพอหรือไม่นั้น เชื่อว่าพอในการทำงานบางอย่างต้องขอย้ำว่าคณะกรรมการไม่ใช่ศาล ไม่สามารถจะชี้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยน่าจะประเมินได้ว่าข้อสงสัยมันมีมูลหรือไม่ เพื่อเปิดทางให้มีการสอบสวนอย่างจริงจังต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงในรายละเอียดซึ่งคงต้องรอกรอบการทำงานในวันนี้ (3 ส.ค.) ก่อน

จากนั้นเวลา 15.00 น. นายวิชาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปริญญา เทวานฤมิตกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีอำนาจสั่งทบทวนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ว่าคณะกรรมการของตนยังไม่ได้มีการหารือว่าคดีของนายวรยุทธได้สิ้นสุดแล้ว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจสั่งอัยการให้มีการรื้อคดีได้อยู่แล้ว แต่นายกฯ มีข้อเสนอแนะได้ ทั้งนี้ ขอให้มีการประชุมนัดแรกเสร็จก่อนแล้วจะมีการแถลงต่อสื่อมวลชนให้ทราบ

เมื่อถามว่าการพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้น่าจะได้ผลในกรอบ 30 วันที่กำหนดใช่หรือไม่ นายวิชากล่าวว่า ยังพูดอะไรไม่ได้ ขอให้ที่ประชุมได้หารือกันให้เรียบร้อยก่อน












กำลังโหลดความคิดเห็น