xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มรุนแรง! “จอม” โหน “โตโต้” ถูกทุบบ้าน ปลุกการ์ดปกป้อง “หมอเหรียญทอง” สั่งเสีย "สละชีพเป็นราชพลี"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ จอม เพชรประดับ จากแฟ้ม
“จอม” โหนทันควัน หลัง “โตโต้” ถูกทุบบ้าน ปลุก เด็กเทคโนฯ-ช่าง-อาชีวะ ดูแลม็อบปลดแอก “หมอเหรียญทอง” เขียนสั่งเสียแล้ว หลังมีผู้เตือนระวังอันตราย ขอคลุมศพด้วยธงสีน้ำเงิน ปักข้อความ “สละชีพเป็นราชพลี”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (31 ก.ค. 63) เฟซบุ๊ก Jom Petchpradab อยู่กับ Puttichat Jindawong ของ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่า
“เปิดใจ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กาฬสินธุ์ หลังจากมีคนร้ายเข้าทุบทำลายสิ่งของภายในรั้วบ้านตอนเช้ามืดวันที่ 31 กรกฎาคมนี้

ภาพ “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ จากแฟ้ม
... นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า ความรุนแรงไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของประชาชน เยาวชน หรือแกนนำชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย

ชัดเจนว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ของกลุ่มพลังนักเรียน นิสิตนักศึกษา

“โตโต้” อดีตลูกพระจอมกล้า จะระดมพลังเด็กช่าง เด็กอาชีวะเพื่อพิทักษ์ประชาชน ให้ออกมาปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของนักศึกษาเยาวชนและประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านกับรัฐบาลเผด็จการได้อย่างไร

ห้ามพลาดคืนนี้ (31 ก.ค.) สามทุ่มเป็นต้นไป ตามวันเวลาประเทศไทย ไลฟ์สด ผ่านทางเฟซนี้ และยูทูป Jom vocie channel ครับ...

ภาพ สภาพบ้าน “โตโต้” ที่ถูกบุกรุกทำลาย จากเฟซบุ๊ก โตโต้ ปิยรัฐ - Piyarat Chongthep
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก โตโต้ ปิยรัฐ - Piyarat Chongthep โพสต์หัวข้อ “...บุกพังบ้านของผม..เพื่ออะไร”

เนื้อหาระบุว่า “เช้ามืด วันนี้ ทางบ้านแจ้งข่าว บ้านพักผมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายชาย บุกรุก และทุบทำลายข้าวของ โดยใช้รูปปั้นสิงโตเฝ้าประตู สีทอง ขนาด 1 ฟุต ของบ้าน ปาใส่ประตูรั้วจนเสียหาย (ตามภาพ) มีการปายางรถจักรยานยนต์ ที่ไม่ใช้แล้ว เข้ามา จำนวนหลายเส้น แต่ตัวบ้าน นอกจากรั้ว ไม่มีอะไรเสียหาย

บ้านหลังนี้ เป็นบ้านพักของผมเอง ซึ่งจะใช้ชั่วครั้งชั่วคราว ตั้งอยู่กลางเมืองกาฬสินธุ์ บนถนนโสมพะมิตร

สืบทราบด้วยตนเอง ผมได้ทราบชื่อ สกุล และประวัติคนร้ายแล้ว ว่า เป็นบุคคลที่พึ่งออกจากคุกมา ในคืนเดียวกันนั้น สดๆร้อนๆ

ขั้นตอนต่อไป ผมจะได้มอบหมายให้ ทนายความ เดินทางไป สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อทำการแจ้งความร้องทุกข์ ภายในวันนี้ หรือเร็วที่สุด

ไม่ว่าสาเหตุ จะมาจากเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัว เรื่องการเมืองท้องถิ่น การเมืองระดับชาติ หรือ จากการเคลื่อนไหวของผมในขณะนี้ ผมต้องการความชัดเจน และดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด”
ด้าน พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“ได้รับแจ้งว่า ให้ผมและครอบครัวระวังอันตราย โดยเฉพาะตัวผม...ผมทราบมาโดยตลอดอยู่แล้วตั้งแต่ประกาศตนชัดเจนต่อสู้กับขบวนการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 จนถึงปัจจุบัน

ผมขอเรียนให้ทราบว่า ไม่ต้องห่วงผมนะครับ และไม่ต้องปกป้องอะไรผมทั้งนั้น...“จงปกป้องพระเจ้าแผ่นดิน”...“Save the king” จำกันไว้ให้มั่นนะครับ...ผมสั่งเสียภริยาของผมมานานหลายปีแล้วว่า ถ้าผมตายผิดธรรมชาติจากการฆาตกรรม จงอย่าคาดหวังที่จะได้ตัวคนร้ายและอย่าคาดหวังความยุติธรรมใดๆ อย่าไปเสียเวลากับกระบวนการตามความยุติธรรม

จงจัดงานศพอย่างเรียบง่าย คลุมศพของผมด้วย “ธงสีน้ำเงินที่ปักข้อความว่า “สละชีพเป็นราชพลี””...ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพเพื่อไม่ให้ขบวนการจัญไรนำไปโยงใยว่าพระเจ้าแผ่นดินคือผู้อยู่เบื้องหลังภารกิจปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของผม ...นี่เป็นเพียงภารกิจของผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น...เผาแล้วนำกระดูกฝังดิน แล้วสร้างศาลพิทักษ์ราชันขึ้น เพื่อเป็นตำนานให้แก่ลูกหลานเหลนโหลนของผมไว้ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ เตือนจิตสำนึกว่า นี่คือความกตัญญูของผม “โหลนจีน” ที่มีต่อราชวงศ์จักรี”

สำหรับ “หมอเหรียญทอง” ถือว่า จริงจังอย่างมากกับการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จนบางครั้งอาจทำให้มีผู้เจ็บแค้นต่อการแสดงออกที่เด็ดเดี่ยว ไม่กลัวเกรงใครหน้าไหน ก็เป็นได้

ภาพ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา จากแฟ้ม
และเมื่อไม่นานมานี้ (25 ก.ค.63) พล.ต.นพ.เหรียญทอง ก็เพิ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า

“ข้าราชการเลวที่มีทัศนะคติต่อต้านพระมหากษัตริย์ที่ประกาศและแสดงตนต่อสาธารณะอย่างชัดเจน ถือว่ามีคุณสมบัติอันต้องห้ามในการเป็นข้าราชการ ดังนั้นหน่วยงานต้นสังกัดจะต้องดำเนินการปลดข้าราชการผู้นั้นโดยไม่มีเบี้ยหวัดบำนาญ จะดำเนินการเพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้ หากผู้บังคับบัญชาเพิกเฉยหรือละเลยถือเป็นความผิดร้ายแรงและต้องถูกปลดเช่นกัน...ใครทราบชื่อ-นามสกุลของข้าราชการผู้หญิงตามที่เป็นข่าวในขณะนี้ได้โปรดส่งชื่อ-นามสกุล และต้นสังกัดให้ผมด่วนด้วยครับ”

ต่อมา พล.ต.นพ.เหรียญทอง โพสต์อีกว่า ได้โปรดแชร์ข้อความนี้ถึง ผวจ.ขอนแก่น ด่วนที่สุด ความว่า

เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น

เพื่อกรุณาทราบและดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกรณี...ข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการตรวจสอบภายในปฏิบัติการ สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเม็ก อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ได้โพสต์ข้อความอันแสดงออกถึงการเป็นปฏิปักษ์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯอย่างชัดเจน พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นข้าราชการตาม พ.ร.บ.หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น ท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของส่วนราชการจังหวัดขอนแก่น จึงต้องแสดงความชัดเจนในการดำเนินการปลด...ออกจากการเป็นข้าราชการโดยไม่มีเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญทันที มิฉะนั้นจะเป็นการเพิกเฉยละเลยอันเป็นความผิดทั้งทางวินัยและอาญา

ทั้งนี้ โพสต์ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง สืบเนื่องจากกรณีสังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพแคปหน้าจอ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง ที่มี นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้อง ม.112 ลี้ภัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ดูแล ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีสถาบัน เป็นภาพขณะที่เจ้าตัวถ่ายรูปชูสามนิ้ว ขณะที่ผู้คนกำลังทำพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ได้โพสต์ข้อความอ้างว่า วันนี้โดนบังคับให้ไปร่วมงาน แต่ไม่ได้ถวายพระพร เลยอยากขอวิธีการปฏิบัติตัวของข้าราชการในกลุ่มนี้ว่า ต้องทำตัวแบบไหน ซึ่งได้มีผู้คนที่มีแนวคิดต่อต้านสถาบันเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก...

แน่นอน, ประเด็นสำคัญก็คือ ความรุนแรงเริ่มมีให้เห็นแล้ว ทั้งในรูปของการบุกรุกทำลายข้าวของ บ้านช่องแกนนำผู้ชุมนุมม็อบปลดแอก และกรณีข่มขู่คุกคามเอาชีวิต “หมอเหรียญทอง” ซึ่งยืนหยัดปกป้องสถาบันมาช้านาน จนกลายเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว
สิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากการแสดงออกทั้งการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือปกป้องสถาบัน หรือไม่ แต่ในเมื่ออยู่ในสถานการณ์ทั้งสองอย่าง ก็คงต้องเชื่อเอาไว้ก่อนว่า มีสาเหตุมาจากเรื่องดังกล่าว

และที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือ การเติม “เชื้อไฟ” ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ของบุคคลที่ปลุกเร้ายั่วยุให้เรื่องนี้ กลายเป็นเรื่องใหญ่ และการผสมโรงเข้ามาของฝ่ายที่สนับสนุน เพื่อหวังสร้างกระแส และขยายผลทางการเมือง ซึ่งคนพวกนี้จ้องอยู่แล้ว นี่คือ สิ่งที่ต้องระวัง!

นอกจากนี้ การสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ก็นับว่า น่ากลัว และอันตราย เพราะที่ผ่านมา มักจับมือใครดมไม่ได้ และที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ นั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น