มหาดไทยออกประกาศคัดเลือก “ผู้ว่าราชการจังหวัด” เพิ่มเติม 14 จังหวัด แทนผู้เกษียณอายุราชการ อัตราว่างในวันที่ 1 ต.ค.นี้ หลัง ครม.แต่งตั้ง/โยกย้ายล็อตใหญ่ไปแล้วเมื่อ 14 ก.ค. พ่วงคัดเลือก “ผู้ตรวจราชการกระทรวง” อีกจำนวน 10 อัตรา
วันนี้ (31 ก.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุรอรรถ ทองนิรมล ประธานกรรมการคัดเลือกเพื่อเลื่อนข้าราชการพลเรือนสามัญขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ลงนาม 2 ฉบับ ในประกาศคัดเลือกฯ ข้าราชการระดับสูง ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด 14 อัตรา และตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง จำนวน 10 อัตรา แทนผู้เกษียณอายุราชการ ซึ่งจะมีอัตราว่างในวันที่ 1 ต.ค. 2563 นี้ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นต้น
ในประกาศได้กำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก เช่น ต้องเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บริหารประเภทต้นไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือประเภทอำนวยการไม่น้อยกว่า 3 ปี และประเภทอื่น ตามหลักเกณฑ์และเงื่อน ก.พ.ไม่น้อยกว่า 3 ปี ส่วนผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ 30 ส.ค. 2550 มีการนับเวลาทวีคูณเป็นเกณฑ์ด้วย โดยมีกรมต้นสังกัดเสนอรายชื่อเท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะเกษียณอายุราชการและมีอัตราว่างในวันที่ 1 ต.ค. 2563 นี้ จำนวน 22 ราย ประกอบด้วย นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี
ว่าที่ร้อยตรี พิเชียน สิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง
นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และ นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรี เมื่อ 14 ก.ค.2563 ได้แต่งตั้งและโยกย้ายไปก่อนหน้านี้ จำนวน 29 รายประกอบด้วย ให้นายทรงพล ใจกริ่ม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้นายสุธี ทองแย้ม เป็นผู้ว่าราชกาจังหวัดจันทบุรี ให้นายไมตรี ไตรติลานันท์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้นายสมบูรณ์ ศิริเวช เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท
ให้นายภิญโญ ประกอบผล เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ให้นายอำพล อังคภากรณ์กุล เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ให้นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้นายไกสร กองฉลาด เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
ให้นายสิริรัฐ ชุมอุปการ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ให้นายนิพันธ์ บุญหลวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ให้นายราชิต สุดพุ่ม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้นายรังสรรค์ ตันจริญ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร
ให้นายรณชัย จิตรวิเศษ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้นายกฤษณ์ คงเมือง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้นายชยันต์ ศิริมาศ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ให้นายชาญนะ เอี่ยมแสง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี
ให้นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี .ให้นายชัยธวัช เนียมศิริ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ให้นายวันชัย คงเกษม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้นายเกียรติศักดิ์ จันทรา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์
ให้นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ให้นายทวีป บุตรโพธิ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และให้นายสยาม ศิริมงคล เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี.