ก.ก.ถ. ปัดฝุ่น ชง 3 ข้อสังเกต แก้ร่างกฎกระทรวง “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช” ตาม กม.อุทยานฉบับใหม่ ส่งเงินสนับสนุน อปท. ยันต้องกำหนดระยะเวลา แบ่งเงินที่เรียกเก็บจากรายได้ ปีละ 2 พันล้าน“อุทยาน วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์หรือสวนรุกชาติ” จากอัตราร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 10 ภายใน 3 ปี ส่วนเงินที่จัดส่งให้“เทศบาล-อบต.” ต้องนำไปใช้ส่งเสริม สนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และฟื้นฟูอุทยานพื้นที่เท่านั้น พร้อมให้ตั้ง“ที่ปรึกษาอุทยาน” แต่ละแห่งเป็นผู้จัดสรรเงิน เผยปี 59 เคยเสนอเจียดให้ อปท. 40%
วันนี้ (30 ก.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในต้นเดือนหน้า คณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) เตรียมรับทราบเพื่อส่งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพัฒนารายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งให้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำไปประกอบการพิจารณาออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ภายหลังมีการประกาศยกเลิก พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504
ข้อสังเกต 3 ข้อนี้ เห็นควรให้ 1. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนดระยะเวลาในการแบ่งเงินที่เรียกเก็บได้ตามมาตรา 29 แก่เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อันเป็นที่ตั้งของอุทยาน วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติแห่งนั้น ในเบื้องต้นในอัตราร้อยละ 5 โดยกำหนดเป้าหมายให้ได้ในอัตราร้อยละ 10 ตามมาตรา 30 ของ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ภายใน 3 ปี หลังจากมีการประกาศใข้กฎกระทรวงแล้ว
โดย 2. กฎกระทรวงที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพืช กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้เทศบาล และ อบต. นำเงินส่วนแบ่งที่เรียกเก็บได้ไปใช้ในการส่งเสริม และสนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และฟื้นฟูอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบนั้น ควรคำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็นที่สนับสนุนภารกิจของอุทยานในลักษณะทั่วไป โดยจัดสรรให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยไม่ต้องจัดทำเป็นโครงการ
สำหรับ 3. การจัดสรรเงินที่เรียกเก็บได้ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อุทยาน ควรมอบหมายให้คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติ ในแต่ละแห่งเป็นผู้กำหนดสัดส่วนและหลักเกณฑ์การแบ่งภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วจัดสรรเงินได้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยคำนึงถึงภาระหน้าที่และผลกระทบที่เกิดขึ้นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีพื้นที่ในอุทยาน และมีการปรับทบทวน หลักเกณฑ์ทุก 2-3 ปี
มีรายงานงานว่า ข้อเสนอดังกล่าว ก.ก.ถ. เคยมีมติ เมื่อ ปี 2559 ให้กรมอุทยานฯ รับไปปรับสัดส่วนเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 ออกตามความในพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ข้อ 1
“ซี่งกำหนดให้กรมอุทยานฯ แบ่งเงินในอัตราร้อยละห้าของเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติให้ อบต. จากเดิม “ร้อยละห้า” เป็น “ร้อยละสี่สิบ”
ต่อมา กระทรวงมหาดไทย รับไปเปลี่ยนแปลงวิธีการรับมอบเงินที่เก็บได้ ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ ในแต่ละปีงบประมาณ จาก “ให้กระทรวงมหาดไทยรับมอบเงินที่เก็บได้ตาม กฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติฯ เป็นสี่งวด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยจะตกลงกัน”
“และเมื่อกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบแล้วให้แบ่งให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบล ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเงินตามงวดนั้น” เป็น “ให้กรมอุทยานฯ จัดสรรเงินตามส่วนแบ่งให้องค์การบริหารสวนตำบลแต่ละแห่งใน พื้นที่ได้รับจัดสรรเป็นรายเดือน”
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 134/2563 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2541) โดยมี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานคณะทำงาน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
มีอำนาจหน้าที่พิจารณาสัดส่วน วิธีการรับมอบเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติให้แก่ อปท. ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจัดทำร่างกฎกระทรวงเพื่อกำหนดสัดส่วนเงินที่เก็บได้และจัดสรรให้แก่ อปท. และวิธีการรับมอบเงินที่เก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ
โดยเมื่อปี 2560 กรมอุทยานฯ ออกมาทักท้วง กรณี ก.ก.ถ.เสนอแก้ไขกฎกระทรวงให้แบ่งเงินรายได้ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติให้กับ อปท. จากเดิมร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 40 โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่มีความพร้อม
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พบว่า เทศบาล และ อบต. กว่า 693 แห่ง จาก 55 จังหวัด ได้รับโอนเงินที่จัดเก็บตามกฎหมายฯ จำนวนร้อยละ 5 ซึ่งเป็นเงินจัดเก็บรายได้เดือน ต.ค.2561 ถึง มี.ค. 2562 (รอบแรกปี 2562) ซึ่งเป็นรายได้จากการจัดเก็บจากอุทยานฯ ทุกแห่งทั่วประเทศ 147 แห่ง วงเงินรวม 69,060,911.17 บาท
ปลายปีที่แล้ว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปการจัดเก็บเงินรายได้กรมอุทยานฯ ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยมียอดการจัดเก็บเงินรายได้จากอุทยานฯ 153 แห่ง เป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 2,258,640,109 ล้านบาท