เปิดเงื่อนไข “สุดารัตน์” เบนเข็มลง “ผู้ว่าฯ กทม.” พร้อมลดบทบาทนำ “เพื่อไทย” เบรกเปลี่ยนตัว “อนุดิษฐ์” เลขาฯ พรรค-เลื่อนโละ กก.บห.สายตัวเอง ประเมินมีโอกาสชนะสนาม กทม. หลังกระแสยี้รัฐบาลกระหึ่ม ยันไม่ใช่แค่รักษาฐานเสียง ไม่สนชน “ชัชชาติ”
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ช่วงก่อนการประชุมใหญ่สามัญของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้หารือกันที่อาคารรัฐสภา โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ต่อสายวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เข้ามาร่วมด้วย และใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงถึงได้ข้อสรุปในการเสนอให้คุณหญิงสุดารัตน์พิจารณาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ได้หารือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคในการประชุมใหญ่ฯ ที่ระดับนโยบายต้องการให้ปรับเปลี่ยนบางส่วน ตามหลักการให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นผู้บริหารพรรค ร่วมกับผู้ที่มีประสบการณ์เพื่อขับเคลื่อนพรรคในทางการเมือง แต่ต้องไม่เกินกึ่งหนึ่งของกรรมการบริหารพรรคที่มีอยู่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องมีสถานะเป็นหัวหน้าพรรค
อย่างไรก็ดี คุณหญิงสุดารัตน์ได้แสดงความไม่เห็นด้วย โดยอ้างว่าหากมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคในช่วงนี้อาจเกิดภาพความขัดแย้งเหมือนพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะเมื่อมีการสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนตัว น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ที่มีความใกล้ชิดกับคุณหญิงสุดารัตน์ แต่ที่ประชุมก็มองว่าปัญหาความไม่เป็นเอกภาพในพรรคภายใต้การนำของนายสมพงษ์ที่ผ่านมา เกิดจากการที่ในคณะกรรมการบริหารพรรคมีคนของคุณหญิงสุดารัตน์มากเกินไป จึงเสนอเงื่อนไขต่อคุณหญิงสุดารัตน์ว่าจะเลื่อนการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคออกไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง แต่คุณหญิงสุดารัตน์ต้องลดบทบาทการนำในพรรคเพื่อไทยลง เพื่อไปเน้นหนักในการทำพื้นที่ กทม.ที่เป็นฐานเสียงของตัวเองเป็นหลัก รวมทั้งเสนอด้วยว่าคุณหญิงสุดารัตน์ควรจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย โดยประเมินว่าหากพรรคเพื่อไทยหรือฝ่ายค้านส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จะได้รับอานิสงส์จากกระแสต่อต้านรัฐบาลที่ค่อนข้างกว้างขวางในขณะนี้ และมีโอกาสที่จะชนะได้เพื่อใช้เป็นเวทีคานอำนาจรัฐบาล คุณหญิงสุดารัตน์จึงต้องตอบตกลง และไม่กี่วันหลังจากนั้นจึงได้จัดประชุมหารือเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งท้องถิ่นในส่วนของพื้นที่ กทม.เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 63 ที่ผ่านมาตามข้อตกลงทันที
“แนวคิดที่คุณหญิงสุดารัตน์จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.มีการพูดคุยกันจริง รอเพียงการตัดสินขั้นสุดท้ายของคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งคงไม่ตัดสินใจอะไรรวดเร็วในตอนนี้ และคนในพรรคเองมีทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน หากคุณหญิงจะลงเลือกตั้งจริงก็คงไม่ได้คิดถึงการลงไปชนกับคุณชัชชาติ (สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม) เพราะคุณชัชชาติออกไปจากพรรคแล้ว จะทำอะไรได้ก็เป็นสิทธิพรรค จะบอกไม่ให้เขาลง ก็คงไม่ได้และเรื่องผู้ว่าฯ กทม.เป็นเรื่องใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ เพราะส่งผู้สมัครมาทุกครั้ง อีกทั้งยังมีทีมการเมืองท้องถิ่นอีก ดังนั้น การส่งผู้สมัครลงชิงผู้ว่าฯ กทม.จึงไม่ใช่เฉพาะรักษาฐานเสียงอย่างเดียว เมื่อลงแล้วก็หวังชนะการเลือกตั้ง จึงต้องเลือกสิ่งดีที่สุดของพรรค” แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุ