พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวสยบรอยร้าว หลังมีกระแสข่าวแตกพรรค “สมพงษ์” ยืนยันไร้ขัดแย้ง ร่วมงาน “สุดารัตน์” ราบรื่น เชื่อจะยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยร่วมกัน
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ห้องประชุม 308 ที่อาคารรัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายค้าน พร้อมทั้งคณะ ส.ส.เพื่อไทยหลายคน ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำบางส่วนจะแยกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ และมีการถกเถียงกันในที่ประชุมพรรคเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยนายสมพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการออกข่าวพรรคเพื่อไทยขาดความสามัคคีนั้น ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีการแบ่งทำงาน ตนทำงานในสภา คุณหญิงสุดารัตน์ทำงานด้านยุทธศาสตร์ ยืนยันว่าเราทำงานกลมเกลียวและเข้าใจกัน ประโยชน์สูงสุดตกกับพรรคเพื่อไทย อะไรที่เข้าใจผิดขอให้เข้าใจกันด้วย เราสองคนทำงานกันอย่างกลมเกลียวและจริงจัง แต่แน่นอนว่าการทำงานย่อมติดขัดกันบ้างซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่และแก้ไขได้ ตนทำงานประสานกับคุณหญิงสุดารัตน์โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น
นายสมพงษ์กล่าวว่า บางทีรัฐบาลอยู่ในภวังค์ที่โซเซ ย่อมมีบุคคลที่ต้องเตรียมตัวเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่ทุกคนเป็นเพื่อนฝูงกันหารือกันตลอดเวลา การตั้งพรรคใหม่ก็เพื่อให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้าสภา ส่วนตัวเชื่อว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยยังอยู่กับพรรคตามเดิม
“เมื่อรัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำก็กำลังต้องเตรียมตัวเท่านั้นเอง พรรคอื่นๆ ก็ต้องเตรียมตัวเช่นกัน แต่เราไม่ขัดแย้งกัน ขอให้สบายใจกันได้” นายสมพงษ์กล่าว
ด้านคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวเสริมว่า วันนี้ในข้อเท็จจริงนั้นพรรคเพื่อไทยเรามีการทำงานอย่างกลมเกลียวกัน หารือกันและต่างคนทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อให้พรรคเพื่อไทยแข็งแรง เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชนในยามที่ประชาชนท้อแท้ พรรคเพื่อไทยไม่มีเวลามาทะเลากัน เพราะทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งมานั้นมาจากประชาชน และประชาชนคาดหวังเพื่อจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ข่าวที่ออกมาทำให้พวกเราไม่สบายใจ เป็นแหล่งข่าวที่ออกมาและทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชนและพรรคเพื่อไทย ส.ส.ทุกคนทำงานหนักในช่วงโควิด แม้สภาจะปิดก็ตาม ทำงานภายใต้หัวหน้าสมพงษ์อย่างเข้มแข็ง ดังนั้น เราไม่สบายใจกับข่าวที่เกิดขึ้น อยากทำความเข้าใจกับทุกคน
“ส่วนการที่มี ส.ส.จะไปตั้งพรรค เราเข้าใจดีว่ากติกาแบบนี้ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้น ผู้เป็นนักการเมืองและต้องการเข้าสภาจึงไปทำพรรคการเมือง ซึ่งต่างเป็นเรื่องดีทั้งนั้นเพราะยังอยู่กับซีกประชาธิปไตย เป็นความจำเป็นจากรัฐธรรมนูญและกติกาที่บิดเบี้ยวและเข้าใจกันดี” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
เช่นเดียวกับนายสุทินที่กล่าวว่า ในฐานะเป็นประธานวิปฝ่ายค้านที่ต้องทำงานกับ ส.ส. ที่ผ่านมาทุกคนก็รับปฏิบัติและสัญญาณจากพรรคชัดเจน และทำงานกับเพื่อน ส.ส.ได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีปัญหา ข่าวที่ปรากฏออกมานั้นขอความเป็นธรรมด้วยว่าไม่เป็นความจริง หากบุคคลที่มีเจตนาทำให้เกิดเรื่องก็ขอว่าอย่าทำอย่างนั้นอีก
นายสุทินกล่าวว่า การตั้งพรรคเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่การไปตั้งพรรคนั้นมีการเสนอข่าวที่ทำให้พรรคเดิมเสียหาย คิดว่าไม่มีเจตนาเหล่านั้น ยังมั่นใจว่าเราที่อยู่และสมาชิกที่ไปก็ยังทำงานร่วมกันในอนาคตกันอีกยาว เพราะยังอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ทั้งหมดเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มีการสื่อสารผิดพลาด ทำให้ ส.ส.โดยเฉพาะ ส.ส.ภาคอีสานได้รับความทุกข์มากที่สุด ดังนั้น การยืนยันถึงความเป็นเอกภาพของพรรคได้ดีที่สุด คือ การทำงานในสภาที่ผ่านมา เช่น การอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ ซึ่งเราภูมิใจว่า ส.ส.ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ทำงานได้เป็นอย่างดี
“ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นอย่างนี้ เชื่อว่ายังอยู่ด้วยกันทั้งหมด แต่เมื่อรัฐธรรมนูญไม่มีทางแก้ได้จึงต้องมีการหาที่ยืน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังจับมือทำงานได้กันเหมือนเดิม” นายสุทินกล่าว
ขณะที่นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี ในฐานะประธาน ส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.อีสานมีความเหนียวแน่นและกลมเกลียวที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมาถึงพรรคเพื่อไทย จะไม่มี ส.ส.อีสานหนีไปไหน ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยแน่นอน