"เศรษฐพงค์" เสนอแก้ข้อบังคับประชุมสภา ให้กมธ.ประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ เชื่อสามารถขยายวงกว้างช่วยอำนวยความสะดวกปชช.ร้องเรียน-ส่งข้อมูล แนะเลขาฯสภาฯต้องจัดโครงสร้างพื้นฐานรองรับเพื่อให้มีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณา ข้อเสนอร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ฉบับที่ พ.ศ..... โดยเป็นการเสนอของ นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ, นายศุภชัยใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยและ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรภูมิใจไทย
โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสนอร่างดังกล่าว โดยหลักการคือเพิ่มข้อ 92/1 ข้อ 96 วรรคสี่ แห่งข้อบังคับการประชุมสภา โดยกำหนดให้การประชุมคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการ สามารถใช้การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ โดยที่ข้อบังคับการประชุมสภา 2562 ยังไม่เปิดช่องการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ให้สามารถดำเนินการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ ประกอบปัจจุบันมีสถานการณ์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การระบาดของโรคลดลงได้ ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ของ กมธ.และอนุ กมธ.ในการประชุมไม่สามารถทำได้ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมาย ดังนั้นจึงสมควรแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพื่อกำหนดให้ กมธ.และอนุกมธ.สามารถประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ ไม่มีความจำเป็นต้องยึดโยงกับสถานที่ในสภา เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ปัจจุบันสามารถสนับสนุนการประชุม โดยที่สมาชิกไม่ต้องอยู่ที่เดียวกัน และยังขยายครอบคลุมทำให้ประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรื่องอินเตอร์เน็ต ที่รัฐบาลและ กสทช.เตรียมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ สามารถสนับสนุน ทำให้พี่น้องประชาชนในภูมิภาคต่างๆสามารถ ที่จะให้ข้อมูลกับ ส.ส. และ กมธ.ชุดต่างๆได้รับทราบปัญหาประชาชนทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนไม่ต้องเดินทางเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเรียกร้องหรือร้องเรียน ปัญหาต่างๆได้
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในสำนักงานต่างๆ เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ มีเครื่องมือต่างๆในการสื่อสารที่สนับสนุนโดยรัฐบาล ในสถานที่ต่างๆก็สามารถให้ข้อมูล กมธ.และอนุกมธ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การแก้ไขระเบียบการประชุมในครั้งนี้สามารถขยายผล ทำให้การทำงานของกมธ.มีประสิทธิภาพ ช่วยเหลือประชาชนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตนมีข้อแนะนำในการสนับสนุนเทคโนโลยีการสื่อสาร สำนักงานเลขาธิการฯควรนำไปพิจารณาปรับปรุงระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องความลับหรือการเก็บข้อมูลที่สำคัญให้ปลอดภัย สำนักงานสภาฯมีความจำเป็นต้องปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูล และป้องกันความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพโดยการแบ๊กอัพข้อมูล ที่เรียกว่า data recovery โดยมีหลักการคือ มีสถานที่และอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากพอในการเก็บข้อมูลการประชุม ตนขอร้องไปยังเลขาธิการสภาให้เตรียมการสร้างพื้นฐานสำคัญเหล่านี้เอาไว้ หากข้อบังคับการประชุมแก้ไขได้แต่ไม่มีพื้นฐานดังกล่าว ก็จะส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพไปด้วย
ทั้งนี้ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นด้วยรับหลักการด้วยคะแนนเห็นด้วย 300 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง