“ประวิตร” กำชับ สทนช.ขับเคลื่อนโครงการสำคัญ กระตุ้นท่องเที่ยว-ลงทุน เร่งช่วยเหลือเกษตรกร และรองรับ EEC เน้นสำรองน้ำคุณภาพ-เพียงพอ มุ่งฟื้นตัวเศรษฐกิจ
วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ว่าการบริหารจัดการน้ำได้กระจายไปหลายพื้นที่เพิ่มเติม โดยการให้งบประมาณไปสร้างหน่วยน้ำบาดาลเพื่อจัดเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะเก็บในช่วงฤดูฝนให้มากที่สุดเพื่อนำน้ำใต้ดินมาใช้ ตอนนี้สำรวจแล้วภาพรวมน้ำใต้ดินมีจำนวนมากสามารนำมาใช้ได้ จึงต้องเตรียมการไว้
ด้าน พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 09.30 น. พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุม ได้มีการหารือ และเห็นชอบ แผนงานโครงการภายใต้ แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ20 ปี (พ.ศ.2561-2580) โครงการจัดหาน้ำต้นทุน และแผนปฏิบัติการปี 2563-2566 จ.ภูเก็ต เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว, เห็นชอบ แผนบูรณาการอุตุนิยมวิทยาเขตร้อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพยากรณ์อากาศ และภูมิอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และป้องกันภัยพิบัติ, เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการจัดการคุณภาพน้ำ และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ของกรมควบคุมมลพิษ โดยเร่งรัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ให้ก่อสร้าง และฟื้นฟูระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนในพื้นที่ และให้ อปท.ที่มีระบบบำบัดน้ำเสียทุกแห่งจัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ให้บริการ ตามหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย รวมทั้งเห็นชอบ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อน EEC ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญ ของรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช. ให้กำกับ ติดตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ประสานงานผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้เร่งขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรโดยเฉพาะพื้นที่บางแห่งที่ยังขาดแคลนน้ำ เพื่อการเกษตรและภาคอุตสาหกรรม การเตรียมน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน (ธนาคารน้ำใต้ดิน)ในฤดูฝนเพื่อกักเก็บไว้ใช้ในหน้าแล้ง รวมทั้งรองรับ EEC โดยมุ่งเน้น คุณภาพของน้ำ และให้ทุกภาคส่วนมีน้ำใช้ อย่างเพียงพอ ยั่งยืน ตลอดไป
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้สั่งการเพิ่มเติมให้ กรมอุตุนิยมวิทยา และกระทรวงมหาดไทย มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องในฤดูฝนขณะนี้ หากเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลาก หรือดินโคลนถล่ม ต้องเร่งแจ้งเตือนประชาชนทราบโดยเร็ว เพื่อเตรียมขนย้ายทรัพย์สินได้ทันเวลา.