“รองฯ ประวิตร” รายงานที่ประชุม ครม.อัปเดตผลประชุม “บอร์ดอวกาศแห่งชาติ” เร่งผลักดัน พ.ร.บ.กิจการอวกาศฯ ให้การพัฒนาเป็นเอกภาพ เปิดทางดาวเทียมต่างชาติให้บริการในประเทศ ชี้ เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เผย พรุ่งนี้ลงพื้นที่ “พิษณุโลก-พิจิตร” ติดตามโครงการ “เติมน้ำใต้ดิน” แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำซาก ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร
วันนี้ (14 ก.ค. 63) ในการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เพื่อติดตามการจัดทำนโยบายด้านกิจการอวกาศ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ต้องดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การดำเนินงานด้านกิจการอวกาศของประเทศเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะก่อให้เกิดนโยบายและแผนการบริหารจัดการด้านกิจการอวกาศของประเทศ ที่มีความเป็นเอกภาพ เพื่อให้มีกฎหมายและหน่วยงานรับผิดชอบเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
“การยกระดับกฎหมาย จะทำให้เกิดการกำกับดูแล เกิดการส่งเสริมกิจการอวกาศ ที่ครอบคลุมทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศของประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีกลไกที่สอดคล้องกับการดำเนินงานในระดับสากล รวมถึงพันธกรณีของไทย ภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศด้านอวกาศ” พล.อ.ประวิตร ระบุ
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ตนได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กิจการอวกาศแห่งชาติ และร่วมกันผลักดันการดำเนินงานเพื่อพัฒนากิจการอวกาศของประเทศให้มีความเป็นเอกภาพ รวมทั้งการอนุญาตให้ดาวเทียมต่างชาติให้บริการในประเทศ ถือว่าเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล จะทำให้เกิดการแข่งขันในการให้บริการด้านโทรคมนาคม ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคมและผู้ใช้บริการในประเทศโดยรวม
ด้าน พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 15 ก.ค. 63 พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กนช.) พร้อมคณะ จะเดินทางไปปฏิบัติราชการติดตามสถานการณ์น้ำ และการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โครงการเติมน้ำใต้ดิน เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ อ.บางระกำ และ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รวมไปถึงบึงสีไฟ จ.พิจิตร ตามนโยบายของรัฐบาล