“อัษฎางค์” เดือดจัด จี้ม็อบแอบแฝง บอกมาเลย “เอาเจ้าหรือล้มเจ้า” ขณะ “ดร.นิว” จวก “พุทธิพงษ์” อ่อน ปล่อยข่าวปลอม บิดเบือนเกลื่อนโซเชียล ถามแรง #ดีอีมีไว้ทำไม “ลุงไพศาล” จับพิรุธหลายจุดต่างชาติหนุนหลัง?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (19 ก.ค. 63) เฟซบุ๊ก อัษฎางค์ ยมนาค ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์หัวข้อ “นี่แหละ จุดประสงค์ที่แท้จริง”
โดยระบุว่า “หยุดอ้อมแอ้ม กันเสียที
กล้าคิด ก็กล้าพูดออกมาตรงๆ ให้ชัดเจนไปเลย
อย่าอ้างว่า เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยอีกเลย
ในเมื่อความจริง อยากเรียกร้องให้ “ล้มเลิกระบบพระมหากษัตริย์”
อย่าอ้างว่า เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยอีกเลย เพราะทุกวันนี้ทั่วโลกยอมรับว่า เราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว
หยุดอ้อมแอ้ม กันเสียที
กล้าคิด ก็กล้าพูดออกมาตรงๆ ให้ชัดเจนไปเลย
ว่าอยากได้ “ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ”
ประชาชนจะได้เลือกกันไปเลยว่าอยู่ฝ่ายไหน
“เอาเจ้าหรือล้มเจ้า”
เอายังไงก็ว่ามาตรงๆ
หยุดพูดว่าไม่เคยคิดล้มเจ้า
ทั้งๆ ที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ อย่างโจ่งครึ่ม
หยุดพูดอย่างทำอย่าง
แบบที่ ลูกผู้ชาย เขาไม่ทำกัน
มาโหวตกันเลย ว่าท่าน เลือก...
• 1. ประชาธิปไตยแบบราชอาณาจักร อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
หรือ...
• 2. ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ ที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
เป็นลูกผู้ชายลูกผู้หญิงอกสามศอก กล้าคิด ก็ต้องกล้าประกาศออกมาเลย
หยุดแอบเป็นหน้าตัวเมีย
อย่าเป็นอีแอบต่อไปอีกเลย มันกระจอก
คนที่รักประชาธิปไตย มาทำตามกติกาประชาธิปไตย
เชิญโหวต
โพสต์นี้ ไม่ขอคอมเมนต์ ไม่ต้องคอมเมนต์ไม่ต้องด่ากัน
ใครชอบแบบไหน ขอชัดๆ...
ขอแค่การโหวต ว่าจะเลือกแบบที่ 1 หรือ 2
จัดมาเลย...
ขณะที่ เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์หัวข้อ “#ดีอีมีไว้ทำไม”
เนื้อหาระบุว่า เมื่อไหร่ คุณพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังกับเครือข่ายปั่นกระแสโซเชียลที่คอยยัดเยียดความขัดแย้งและความรุนแรงให้กับสังคมไทยสักทีครับ?
ไม่ใช่แค่เพจต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย แต่สำนักข่าวหลายๆ สำนักข่าวที่ขยันปล่อยข่าวปลอมหรือข่าวปลุกปั่นบิดเบือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังเป็นอยู่แบบนั้น ยังไม่เห็นคุณพุทธิพงษ์ดำเนินการอะไร หรือมีมาตรการอะไรที่ชัดเจนในการแก้ไขและยุติการกระทำของเครือข่ายดังกล่าวที่ละเมิดกฎหมายและความผาสุขของสังคมไทยได้เลย
คงไม่ต้องบอกว่าใคร? หรือคนกลุ่มใดที่อยู่เบื้องหลัง? และพวกเขาต้องการอะไร? แต่ปัญหามันอยู่ที่คุณพุทธิพงษ์ได้ลงมือทำอะไรแล้วบ้าง? ได้ตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของขบวนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายนี้บ้างแล้วหรือยัง?
แม้คนรุ่นใหม่จำนวนมากจะรู้เท่าทันเครือข่ายนี้แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังมีคนรุ่นใหม่บางส่วนที่ยังตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของเครือข่ายนี้อยู่ เพราะพวกเขาได้รับข้อมูลด้านเดียวซ้ำๆ ซากๆ จนฝังหัวเสียจนข้อมูลที่ถูกต้องอีกด้านเข้าไม่ถึง
อีกทั้งภาครัฐที่มีความรับผิดชอบอย่างคุณพุทธิพงษ์เอง ก็ไม่สามารถที่จะตามแก้ไขข้อมูลบิดเบือนเหล่านี้ด้วยการหยิบยื่นข้อมูลที่ถูกต้องได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมเพื่อให้บรรลุพันธกิจต่างๆ ตามวิสัยทัศน์ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ถ้ารัฐบาลที่มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังคงไม่สามารถที่จะปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ดูแลความมั่นคงของสถาบันสำคัญของชาติและรักษาความสงบสุขทางไซเบอร์ที่มีผลกระทบต่อสังคมได้ ยังไม่สามารถที่จะหยุดขบวนการระดมปลุกปั่นแย่ๆ ที่หวังหลอกใช้ประชาชนตาดำๆเป็นเครื่องมือทางการเมืองไปสู่ความรุนแรงอย่างน่ารังเกียจ แล้วยังปล่อยให้ประชาชนด้วยกันต้องคอยมานั่งแก้ข่าวปลอม และเปิดโปงนักการเมืองเลวๆ ที่เป็นภัยสังคมกันเองอย่างทุกวันนี้
แล้วจะมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไว้เพื่ออะไรครับ?
ขอเรียนถามท่าน พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้เป็นรัฐมนตรีด้วยความเคารพ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณี กลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และกลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH จัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล เมื่อค่ำ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ “ต้องไม่ใช่ชุมนุมต่อต้านสถาบัน”
โดยระบุว่า “การชุมนุมของเยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวานนี้ คนชุมนุมไม่ถึงกับหรอมแหรม แต่ไม่มากอย่างที่แกนนำตั้งใจ ?
นี่ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองครั้งแรกของกลุ่มนี้ แต่มันจุดไม่ติด คนที่ร่วมมีแต่หน้าแก่ๆ คุ้นหน้าเป็นแขกประจำรายการ จะเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ยุบสภาก็ว่าไป
ประเด็นสำคัญที่ต้องถาม คือ ตกลงเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย หรือจะต่อต้านสถาบัน ทำไมปล่อยให้ผู้มาร่วมชุมนุมถือป้ายต่อต้านสถาบันชัดเจนหลายคน หากไม่รู้เห็นเป็นใจ ไม่ใช่การชุมนุมต่อต้านสถาบัน การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมต้องห้ามปราม ห้ามถือป้ายต่อต้านสถาบันหรือกันออกจากพื้นที่ชุมนุม ไม่ต้องพูดถึงการแจกพิซซ่า 112 กล่อง จะมีนัยยะอะไร
ความชอบธรรมในการชุมนุมหมดสิ้นทันทีที่มีการต่อต้านสถาบันในพื้นที่ชุมนุม”
เช่นเดียวกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์หัวข้อ “ชังชาติเนรคุณแผ่นดิน!!!”
เนื้อหาระบุว่า “อยากถามนายธนาธรเรื่องการชุมนุมที่เกิดขึ้น
คุณคิดว่า คนไทยโง่หรือ ที่ไม่รู้ว่าการชุมนุม มีนักการเมืองอยู่ข้างหลัง?
ที่สำคัญ มีพวกชังชาติ เนรคุณแผ่นดิน บังอาจถือป้ายจาบจ้วง ละเมิดความศรัทธาของประชาชน ต้องการทำลายรากเหง้า ความเป็นมาของชาติ อยากเปลี่ยนประเทศเป็นแบบฝรั่ง
ธนาธร...คุณคิดว่า คนไทยจะยอมหรือ??? ทำอะไร ทำไมทำแบบโง่โง่!!!
อย่าลืมนะ บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมาย
#ต่อต้านพวกชังชาติ
#ต่อต้านพวกเนรคุณแผ่นดิน”
ที่สำคัญ เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ของ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี โพสต์โพสต์หัวข้อ “นัดแล้วไม่มาตามนัด”
ระบุว่า “เมื่อเช้าเขียนเผลอเรียกม็อบ 18 กรกฎาคม ว่า ม็อบ 9 กันยายน เพราะใจพะวงไปถึงกบฏ 9 กันยายนในยุคป๋าเปรม ที่นัดกันแล้วก็ไม่มาตามนัด จึงกลายเป็นกบฏยกแผง
“ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะเมื่อคืน หน่วยงานการข่าวตรวจพบว่ามีการนัดหมายระดมคนเข้ามาจากต่างจังหวัดราว 7-8 จังหวัด และมีการเขียนข่าว ในลักษณะนี้ชัดเจน ในขณะที่ม็อบก็ประกาศชุมนุมค้างคืน
แต่ปรากฏว่า เอาเข้าจริง ที่จะเดินทางมาสมทบก็ไม่มา ที่จะชุมนุมจนสว่าง ก็เลิกก่อนตอน 2:00 น. สภาพอย่างนี้พวกหนึ่งก็ว่าม็อบจุดติดแล้ว แต่พวกหนึ่งก็ว่า ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายไพศาล พืชมงคล “วิเคราะห์แนวทางทำม็อบของกลุ่ม เยาวชนปลดแอก หัวข้อ “ข้อสังเกตเกี่ยวกับม็อบ 18 กรกฎา”
1. การใช้เสื้อ การใช้แสง เหมือนม็อบฮ่องกง
2. โซเชียลในประเทศ เป็นโซเชียลที่เป็นคู่กรณีกับโซเชียลเชียร์ลุง
3. Social ต่างประเทศ ที่ออกหน้ามากคือ BBCไทย voa และประชาไท สามรายนี้ปรากฏตัวขึ้นคนไทยทั้งประเทศก็รู้แล้วว่า อะไรเป็นอะไร ที่สำคัญคือ คนไทยทั้งประเทศ จำฝังใจกันทุกคนว่า อังกฤษคือนักล่าอาณานิคมที่เคยย่ำยียึดดินแดนประเทศไทยมากที่สุด ตอนนี้เปิดหน้ากลับมาเอเชียอีกแล้ว
4. องค์กรของต่างชาติ ยืนกำกับการอยู่ข้างหลัง และบางองค์กร ของคนไทยที่ขายตัวให้กับต่างชาติ รับเงินจากหน่วยงานของรัฐสภาสหรัฐฯ มาบ่อนทำลายชาติเป็นประจำก็ปรากฏตัวให้เห็น ว่าเป็นเจ้ากี้เจ้าการด้วย
ดูกันไปก็แล้วกัน ก็จะยิ่งเห็นชัดว่า ฮ่องกงโมเดลกำลังนำมาใช้กับประเทศไทย
ไม่มีวันสำเร็จครับ เพราะคนไทยไม่นิยมอังกฤษเหมือนกับคนฮ่องกงบางพวก
ต่อมาก็โพสต์ต่อเนื่องวิเคราะห์ถึงม็อบอีก หัวข้อ “การทำโปสเตอร์นี้เป็นเรื่องโง่ที่สุด”
1. เป็นการเปิดตัวเองว่า ต่างชาติบงการเป็นเรื่องที่ องค์กรที่รับใช้ต่างชาติเขารับงานมาทำ
2. ม็อบนักศึกษานั้น เป็นม็อบที่บริสุทธิ์ จึงได้รับการสนับสนุนจากประชาชน แต่ม็อบที่ใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือก็จะมีอาการแบบนี้ เมื่อประชาชนรู้เท่าทันก็จะหมดพลังทันที
3. แค่ทำโปสเตอร์แบบนี้มายกขึ้นที่ม็อบ ก็จะมีการนำไปขยายผลในต่างประเทศเบิกเงินสบายไปเลย
ถ้าไม่ให้ต่างชาติเกี่ยวข้อง
ทำให้ม็อบบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ผู้คนก็จะเข้าร่วมมาก
แน่นอน, ประเด็นที่หลายคนคลางแคลงใจ ไม่ใช่เรื่องการชุมนุมทางการเมือง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องแต่อย่างใด หากแต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ม็อบโดยการนำของ สนท. และกลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ปล่อยให้มีคนบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมล้มสถาบัน โดยแอบแฝงชูป้าย แต่ไม่มีใครห้ามปราม หรือแม้แต่กลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่หนุนหลังม็อบอย่างออกนอกหน้า ก็มีพฤติกรรม ต้องการล้มสถาบัน และเปลี่ยนแปลงการปกครอง รวมอยู่ด้วย
ม็อบครั้งนี้จึงมีถูกตั้งคำถามมากมาย ว่า เป็นการเคลื่อนไหวของพลังบริสุทธิ์ อย่างที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่
โดยเฉพาะโพสต์ของหลายคนที่ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ ล้วนพุ่งเป้าไปที่ “ม็อบสีเทา” มีพฤติกรรมแอบแฝง เพื่อล้มสถาบัน และมุ่งหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือไม่ นี่ต่างหากที่น่าสนใจมากกว่า และเหยียบย่ำความรู้สึกคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ จนยากให้อภัย ยิ่งถ้ายอมเป็นเครื่องมือของต่างชาติตามที่มีการตั้งข้อสังเกตด้วยแล้ว ยิ่งถือว่าเนรคุณประเทศชาติ อย่างไม่น่าให้อภัย หรือว่าไม่สนใจ?