ส.ส.เมืองคอน ปชป. หนุนญัตติด่วน แก้โควิดรอบ 2 แนะ นายกฯขอโทษชาวระยองเป็นทางการกว่านี้ รับความจริงลงพื้นที่มีทั้งดอกไม้ก้อนหิน อย่าให้มีแต่ป้ายเชียร์แบบ “ป๋าเปรม” พลาดอีก ปชช.ไม่ยกโทษ ชี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แค่ใช้คุมห้ามการเมือง
วันนี้ (16 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายสนับสนุนญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาและเร่งแก้ไขปัญหาความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดระลอกสอง ของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ คนจึงขออภิปรายสนับสนุนด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
1. ตนเป็นผู้เซ็นรับรองญัตติด่วนฉบับนี้เป็นคนแรก
2. เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้ไปสัมมนาที่เกาะเสม็ด ในช่วงที่มีเหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 แวะมาเที่ยวในระยอง และเป็นการตอบแทนการต้อนรับญาติพี่น้องชาวระยอง เป็นอย่างดี จากแฟนคลับและผู้สนับสนุนอย่างเจ๊กิมฮ้อ อรุณเวสสะเศษฐ์ เจ้าแม่บ้านเพ
เมื่อเกิดกระแสข่าวทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 แวะมาท่องเที่ยวที่ระยอง ก็มีความตื่นตระหนกกันทั่วทั้งประเทศ แม้ว่าจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ หรือข้อบกพร่องในระดับผู้ปฏิบัติก็ตาม แต่ฝ่ายบริหารจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุด และใช้วิธีการแบบเดียวกับนักการเมืองทั่วไป คือ
1. ได้กล่าวคำขอโทษต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะมีคำขอโทษจะออกจากปากคนระดับนายกรัฐมนตรี แต่สำหรับพลเอก ประยุทธ์ คำขอโทษจะเป็นคำติดปาก ทุกครั้งที่มีการพูดผิดพลาด ก็จะกล่าวคำขอโทษ ซึ่งเป็นบุคลิกของคนปากร้ายใจดี โกรธง่ายหายเร็ว แต่อยากจะให้ พลเอก ประยุทธ์ ได้แสดงคำขอโทษที่เป็นทางการมากกว่านี้
2. เมื่อเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น พลเอก ประยุทธ์ ได้ตัดสินใจลงพื้นที่ในทันทีเพื่อให้กำลังใจ เรียกความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชนชาวระยอง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พึงกระทำ สำหรับนักการเมืองและนายกรัฐมนตรี
3. การรับฟังความเห็นจากประชาชน ซึ่งอยากจะให้ พลเอก ประยุทธ์ ยอมรับความจริงว่า ทุกครั้งในการลงพื้นที่ จะมีทั้งคนสนับสนุนและคัดค้าน มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ การถือป้ายประท้วง เป็นเรื่องปกติของนายกรัฐมนตรีมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ยุคนายกฯทักษิณ นายกฯยิ่งลักษณ์ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็เคยโดนการต่อต้านยกป้ายประท้วงมาแล้วเช่นเดียวกัน
จึงอยากให้ พลเอก ประยุทธ์ ได้ทำใจยอมรับสภาพ การลงพื้นที่ทุกครั้งไม่ควรสั่งให้ข้าราชการกีดกั้นประชาชน หรือให้ประชาชนยกป้ายเชียร์เหมือนยุครัฐบาลพลเอก เปรม ที่มีการยกป้ายต้อนรับทุกครั้ง ว่า “น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก นายกฯเป็นของป๋า” ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างมาใช้ในการลงพื้นที่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดระยอง สร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะระบาดรอบสองขึ้นมาอีก หลังจากที่ทุกคนมั่นใจกับมาตรการป้องกันการระบาดของรัฐบาลและบุคลากรทางการแพทย์มาเป็นเวลา 50 กว่าวันแล้ว
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ รัฐบาลก็ได้มีมาตรการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาด้วยการสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน โดยการออกเป็นมติ ศบค.ใน 3 ข้อ คือ 1. จะมีการทบทวนโดยขอให้นักการทูตเข้าสู่สถานที่กักกันของรัฐจัดให้ เป็นเวลา 14 วัน 2. จะดำเนินการยกเลิกการอนุญาตการบินเข้าของกองทัพอากาศ ทั้งหมด 8 เที่ยว 3. ชะลอการอนุญาตการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแบบผ่อนคลายตามข้อกำหนด ได้แก่ กลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต กลุ่มบุคคลในคณะทูต และ กลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางเข้าในระยะสั้น และการให้คำมั่นสัญญาจาก พลเอก ประยุทธ์ ว่า จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก ถ้าเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ประชาชนก็จะไม่ยอมยกโทษให้ แต่พร้อมจะลงโทษในทันที และต้องมีการเยียวยาดูแลธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง เกาะเสม็ด ที่กำลังฟื้นตัวอยู่ในตอนนี้
การที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างต่อเนื่อง ด้วยการอ้างเหตุผลควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่า ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามแต่ด้วยความหวังที่จะให้การระบาดของโควิด-19 แต่วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่สามารถที่จะควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริง คงเป็นเพียงการควบคุมคนและการเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้นเอง