สลค.เวียนมติ ครม. หวังแก้เครียดข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ/ลูกจ้าง “กลุ่มทำงานอยู่บ้าน” ช่วงโควิด-19 สั่ง ก.พ.- ก.พ.ร.- คลัง ศึกษาแนวทางอนุญาต กลุ่ม Work from Home สามารถเดินทางไปทัศนศึกษาข้ามจังหวัด ระหว่างวันทำการได้ตามความประสงค์ แต่ไม่กระทบบริการประชาชน คาดกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ทำงานนอกสถานที่ ลดการรวมตัว แก้จราจรคับคั่งชั่วโมงเร่งด่วน
วันนี้ (16 ก.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เวียนหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และกระทรวงการคลัง ไปหารือตามมติ ครม. ที่เห็นชอบในหลักการให้ผู้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) สามารถเดินทางไปทัศนศึกษาได้
เนื่องด้วยในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี (14 ก.ค.) ได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) อย่างต่อเนื่องต่อไป และจะช่วยลดการรวมตัวกันในสถานที่ทำงาน รวมทั้งเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรแออัดคับคั่งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนด้วย
ครม.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ พิจารณาอนุญาตให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ในสังกัด แล้วแต่กรณีที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) สามารถเดินทางไปทัศนศึกษาข้ามจังหวัดในระหว่างวันทำการได้ตามความประสงค์
“ตราบเท่าที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ได้พิจารณาแล้วว่าการไปทัศนศึกษาดังกล่าว ผู้ได้รับอนุญาตยังสามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้ โดยไม่ส่งผลเสียหายต่องานในความรับผิดชอบหรือการให้บริการประชาชน”
ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และกระทรวงการคลัง รับไปพิจารณาความเป็นไปได้ในส่วนนี้
เมื่อต้นเดือน สลค. เพิ่งเวียนหนังสือแจ้งมติ ครม. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณและให้สามารถจัดการประชุม อบรม และสัมมนา ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศได้ตามความเหมาะสม โดยให้คำถึงถึงสุขภาพอนามัยในการจัดกิจกรรมและความปลอดภัยในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และ ให้รายงานผลการจัดประชุม สัมมนาและการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบ
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ได้เริ่มคลี่คลายลงและภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และคำสั่งดังกล่าวเพื่อเป็นการฟื้นฟูและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ.
ในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 หน่วยงานราชการ รวมทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ร่วมมือกันในการอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ด้วยการ “การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home)”
ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ สำนักงาน ก.พ. เป็นเจ้าภาพหลักในการติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการ Work form Home ของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ทราบอุปสรรคปัญหา
โดยสำนักงาน ก.พ.ได้รายงานผลต่อ ครม.มาแล้ว 8 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด 14 ก.ค. ได้รับข้อมูลจาก 146 ส่วนราชการ คิดเป็น 99% ของส่วนราชการทั้งหมด (147 ส่วนราชการ) สรุปข้อมูลที่น่าสนใจ เช่น ส่วนราชการ 84 % (123 ส่วนราชการ) มีการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ มีการมอบหมายให้ปฏิบัติงานที่บ้านในหลายรูปแบบ เช่น ปฏิบัติงานที่บ้านสลับกับการมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของส่วนราชการวันเว้นวัน สัปดาห์ละ 1 วัน สัปดาห์ละ 2 วัน สัปดาห์เว้นสัปดาห์ เป็นต้น
ส่วนใหญ่ 45% กำหนดการเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานเป็น 3 ช่วงเวลา คือ เวลา 07.30-15.30 น. เวลา 08.30-16.30 น. และเวลา 09.30-17.30 น. ส่วนราชการ 12% (17 ส่วนราชการ) กำหนดให้เหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานมากกว่า 3 ช่วงเวลา และส่วนราชการ 16% (23 ส่วนราชการ) ไม่ได้กำหนดให้มีการเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงาน
มีการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานส่วนราชการมีการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานโดยส่วนใหญ่เลือกใช้ Application LINE 99% Application Zone 68% Microsoft Team 34% และ Cisco Webex 27% ตามลำดับ.