“นิพนธ์” ร่วมประชุม กพต.ติดตามการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ เน้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจทุกระดับ สร้างงาน สร้างสันติสุข คุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน
วันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2563 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คกก.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เพื่อสรุปความก้าวหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมาและเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สำคัญของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม
ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอเรื่องที่สำคัญ โดยมอบหมายให้กระทรวงต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานโครงการ ที่เชื่อมโยงการพัฒนา และการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงในทุกมิติ ได้แก่การใช้ประโยชน์ที่ดิน และการดำเนินการป่าชุมชนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก, การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจร ,การบริหารจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืน, การพัฒนาด่านการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย และผลการรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนเพื่อขับเคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาพิเศษ เฉพาะกิจอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
พล.อ.ประวิตรได้เน้นย้ำถึงเรื่องการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทุกหน่วยงานจะต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน สูงสุด มีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ ตามเป้าหมายของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างสันติสุข ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี โดยอยู่ร่วมกันได้ในพหุสังคม สร้างเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการพัฒนาทุกระดับ เช่น โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยเฉพาะที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน คือ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยขอให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันขับเคลื่อน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป พร้อมได้สั่งการ ศอ.บต.ให้มีการประสานการปฏิบัติตามมติของ กพต.กับทุกภาคส่วนให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม และกำชับให้กระทรวงต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องให้การสนับสนุน ศอ.บต. พร้อมทั้งร่วมกันขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ไปด้วยกัน เน้นย้ำการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจโดยนำประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นตัวตั้ง เพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกัน ต้องลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือ และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างเด็ดขาด เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยเร็ว