รอลุ้น 24 ก.ค.นี้ เลขาฯ ศาลชงบัญชี “เมทินี ชโลธร” ให้ ก.ต.เคาะนั่งประธานศาลฎีกาหญิงคนเเรกของประเทศ “ปิยกุล” ขึ้นแท่นประธานศาลอุทธรณ์ “นุจรินทร์” คุมศาลฎีกาฯ นักการเมือง
วันนี้ (16 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมได้เปิดเผยบัญชีรายชื่อที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอเเต่งตั้งโยกย้ายผู้พิพากษาวาระ 1 ต.ค.โดยบัญชี 1 เลื่อนชั้น 4 เป็นชั้น 5 มี 1 บัญชีมีการเสนอนางเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกา ขึ้นเป็นประธานศาลฎีกา โดยหาก ก.ต.มีมติเห็นชอบจะถือว่าเป็นประธานศาลฎีกาหญิงคนแรกของประเทศไทย
โดยบัญชี 2 เป็นชั้น 4 สับเปลี่ยนตำเเหน่งจำนวน 48 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งที่น่าสนใจระดับรองประธานศาลฎีกาดังนี้
น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกาขึ้นประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งตามลำดับอาวุโสมีโอกาสที่จะขึ้นประธานศาลฎีกาในวาระต่อไปต่อจากนางเมทินี ซึ่งตำเเหน่งประธานศาลอุทธรณ์ถือว่ามีความอาวุโสรองลงมาจากประธานศาลฎีกา, นางวาสนา หงส์เจริญ ประธานแผนกคดีเยาวชนในศาลฎีกาขึ้นรองประธานศาลฎีกา, นายพศวัจณ์ กนกนาก ประธานแผนกคดีพาณิชย์ เเละเศรษฐกิจในศาลฎีกา ขึ้นรองประธานศาลฎีกา
นายนิพันธ์ ช่วยสกุล ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาในศาลฎีกา ขึ้นรองประธานศาลฎีกา, นายประสิทธิ์ เจริญถาวรโภคา ประธานแผนกคดีคำสังคำร้องเเละขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกา ขึ้นรองประธานศาลฎีกา, นายสรศักดิ์ วาจาสิทธิศิลป์ หัวหน้าคณะในศาลฎีกา ขึ้นรองประธานศาลฎีกา, นายเสรี เพศประเสริฐ หัวหน้าคณะในศาลฎีกาขึ้นรองประธานศาลฎีกา
นอกจากระดับรองประธานศาลฎีกายังมีตำแหน่งที่น่าสนใจ เช่น นางนุจรินทร์ จันทร์พรายศรี หัวหน้าคณะในศาลฎีกาขึ้นประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ซึ่งปัจจุบันเป็น ก.ต.ที่ได้รับเลือกคะเเนนสูงอันดับ 1, นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลาง ขึ้นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 6 ซึ่งนับอาวุโสเป็นคิวขึ้นประธานศาลฎีกาต่อจากนางปิยกุล ผู้ที่ถูกเสนอบัญชีรายชื่อนั่งประธานศาลอุทธรณ์, นายชูชัย วิริยะสุนทรวงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขึ้นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 พื้นที่มีความสำคัญคุมจังหวัดสำคัญในภาคเหนือ
โดยบัญชีรายชื่อที่สำนักงานศาลยุติธรรมจัดทำดังกล่าว นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการ ก.ต.จะนำเสนอเข้าที่ประชุม ก.ต.ในวันที่ 24 ก.ค.เพื่อพิจารณาผ่านความเห็นชอบในการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งบริหารดังกล่าวต่อไป