“เทพไท” รุก ป.ป.ส. เสนอขยายพื้นที่นำร่องปลูกกระท่อมใน 8 อำเภอเมืองคอน ชี้การฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ไม่เวิร์ก อนุ กมธ.ปลดล็อกกระท่อมเตรียมเวทีประชาพิจารณ์เอง
วันนี้ (15 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ออกมาชี้แจงถึงขั้นตอนการอนุญาตให้ 135 หมู่บ้าน ชุมชนนำร่อง ปลูก-เสพ-ครอบครอง ‘พืชกระท่อม’ ไม่ผิดกฎหมายว่า การกำหนดพื้นที่ 135 ชุมชน หมู่บ้าน 10 อำเภอ 10 จังหวัดนั้น ไม่ตอบโจทย์พื้นที่ปลูกพืชกระท่อมที่แท้จริง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันประกอบด้วย อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด จัดเป็นแหล่งกำเนิดพืชกระท่อมมาตั้งแต่สมัยโบราณ น่าจะได้รับการอนุญาตให้ปลูกพืชกระท่อม บริโภค ครอบครอง เป็นพื้นที่นำร่องตามแนวทางของสำนักงาน ป.ป.ส. แต่เมื่อสำนักงาน ป.ป.ส.ได้กำหนดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว การเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องแจ้งความประสงค์ต่อสำนักงาน ป.ป.ส.เพิ่มเติมได้นั้น เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับพี่น้องประชาชน ชาวบ้านโดยทั่วไป จึงขอเสนอให้สำนักงาน ป.ป.ส.ได้เพิ่มพื้นที่นำร่องเพื่อปลูกพืชกระท่อมในพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ อำเภอปากพนัง, หัวไทร, เชียรใหญ่, ชะอวด, จุฬาภรณ์, ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ และพระพรหม เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงโครงการปลูกพืชกระท่อมของสำนักงาน ป.ป.ส.โดยไม่ผิดกฎหมาย
ส่วนการเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนในเรื่องการปลดล็อกพืชกระท่อมผ่านเว็บไซต์นั้น เป็นเรื่องยุ่งยากที่ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดา คนรากหญ้าไม่สามารถเข้าถึงระบบสมาร์ทโฟน หรือเว็บไซต์ได้ เรื่องนี้คณะอนุกรรมาธิการปลดล็อกพืชกระท่อมที่ตนเป็นประธานจะลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชน และแจกเสื้อยืดการรณรงค์ปลดล็อกพืชกระท่อมให้แก่ผู้ร่วมเวทีประชาพิจารณ์ทุกคน ในวันที่ 8-10 สิงหาคมนี้ เพื่อนำข้อมูลจากพี่น้องประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหากัญชา กันชง และพืชกระท่อมอย่างเป็นระบบ และเป็นข้อมูลในการประกอบการแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษปี 2522 ต่อไป
นอกจากนี้ ตนจะขอเสนอเปลี่ยนแปลงถ้อยคำใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 2522 จากคำว่าเสพพืชกระท่อม เป็นบริโภคพืชกระท่อมแทน เพราะเมื่อพืชกระท่อมได้ถูกปลดออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 แล้ว และในขณะนี้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ... ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงเห็นว่าเมื่อพืชกระท่อมจะไม่เป็นพืชเสพติดอีกต่อไป จึงไม่ควรใช้คำว่าเสพพืชกระท่อมเหมือนกับการเสพยาเสพติดชนิดอื่นๆ อีกต่อไป