“ประยุทธ์” เผยหยุดยาวอยู่ กทม.ไม่ไปไหน อ่านเอกสารสั่งงาน ครม. ห่วงโควิด-19 ระบาดระลอกสอง จัดงบรับมือแล้ว กำชับทุกกระทรวงแจงผลงานกรอกหูประชาชน ขออย่าจุดประเด็นเรื่องไม่เป็นเรื่องก่อความขัดแย้ง ปัดตอบเดินสายพบสื่อ
วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผานมาหลายคนคงได้มีโอกาสพักผ่อน ส่วนตนเองไม่ได้ไปไหน อยู่ในกรุงเทพฯ ติดตามงานทุกวัน งานเอกสารบ้างอะไรบ้าง สิ่งที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรค ต้องมาคิดอะไรต่างๆ เพื่อมาถ่ายทอดให้คณะรัฐมนตรีทราบในที่ประชุมว่าเราคิดตรงกันหรือไม่ วันนี้เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคของรัฐบาล ข้าราชการ ธุรกิจ เอกชน สมาคมผู้ประกอบการทั้งหลายต้องทำงานร่วมกันและหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เราทราบดีว่างบประมาณมีแค่ไหนอย่างไร เราต้องเตรียมงบประมาณตรงนี้ไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ หากมีการแพร่ระบาดและวันนี้ งบเยียวยายังพอมีเหลืออยู่ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในก้อนแรก และก้อนที่ 2 งบสาธารณสุขก็ยังมีอยู่ ไม่อยากให้ทุกคนห่วงกังวล แต่เราเตรียมการไว้ หากมันไม่มีก็ยังสามารถใช้ในแผนงานอื่นได้ที่ต้องเตรียมสำรองเอาไว้ วันนี้หลายอย่างเดินหน้าไม่ได้ ด้วยความไม่เข้าใจ หรือด้วยการบิดเบือนหลายๆ อย่าง ดังนั้น ฝากสื่อสังคม ช่วยกันพิจารณาถึงเจตนาของรัฐบาลด้วย ตนต้องการทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า สถานการณ์ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลำบาก รัฐบาลก็ลำบากในการบริหาร ประชาชนก็ลำบากในการดำรงชีวิตอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้รัฐบาล ครม.ก็ให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ ก็ต้องให้เวลากับเราบ้างในการทำงาน และให้เหมาะสมงบประมาณที่มีอยู่
“ขอให้รักษาตัวให้ดีในช่วงนี้ เพราะเรากำลังเดินหน้า การท่องเที่ยวภายในประเทศ และการเปิดกิจการต่างๆ ต่อไป ถ้าไม่ช่วยกันระวังก็ไปไม่ได้ ก็ต้องหยุดเหมือนเดิม และย้อนกลับมาที่เดิมใหม่ ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เรื่องใดก็ตามที่พูดออกมาในสื่อหรือโซเชียลฯ หน่วยงานก็ได้ชี้แจงไปบ้างแล้ว ขอให้รับฟังการชี้แจง เราต้องไม่สร้างความขัดแย้งซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง หรือ บางเรื่องมันทำให้เกิดประเด็นขึ้นมา และทำให้เกิดปัญหากับประเทศชาติ ฉะนั้น เราชี้แจงในส่วนที่ชี้แจงได้ในสิ่งที่ข้อเท็จจริงไป คงได้เท่านั้น ไม่ใช่ทำให้สถานการณ์ร้อนระอุไปทุกเรื่อง ต้องจัดลำดับให้ดีในการชี้แจง ผมเน้นย้ำในเรื่องการให้ข้อมูลข่าวสารของกระทรวง คงไม่ใช่ให้ครั้งเดียว ต้องพูดด้วยว่าสิ่งที่ทำไปแล้วผลสัมฤทธิ์เกิดอะไรขึ้น และเกิดผลประโยชน์โดยตรง โดยอ้อมอย่างไร ทั้งการลงทุนในอนาคตด้วย มันต้องไปด้วยกันทั้งหมด เพราะมันเกิดทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นการสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายได้เข้าถึง การบริการของภาครัฐ นั่นคือโอกาสความเท่าเทียม ต่อไปก็เป้นเรื่องความเป็นธรรม ดูแลผู้มีรายได้น้อย อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ให้เป็นภาระงบประมาณระยะยาว อันนี้เป็นสิ่งที่เราเผชิญหน้าอยู่ทุกวัน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ฉะนั้นรัฐบาลต้องทำอย่างดีที่สุด ผมยืนยันในเจตนารมณ์ของผมเอง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงวัตถุปรสงค์การเดินสายพบกองบรรณาธิการ สื่อสิ่งพิมพ์ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ พร้อมเดินออกจากโพเดียมทันที
