“ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน!” เดือดทั้ง “ใน-นอก” สภา ขยายผลยกใหญ่ “เอ๋” พิทักษ์ลุงตู่สุดลิ่ม ไม่กลัวกฎหมาย ถูกลงโทษอย่าหอน “ช่อ” ไปใหญ่ หาดูถูกพลังประชาชน “หมอวรงค์” กัดไม่ปล่อย “แจกแหกตา” ท้า “ทอน” พิสูจน์
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (4 ก.ค. 63) เฟซบุ๊ก ปารีณา ไกรคุปต์ ของ นางปารีณา ไกรคุปต์ หรือ “เอ๋” ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความระบุว่า
“ฝากถึง #จอมแถ #จอมบิดเบือน ทุกคน
นายกฯพูดก็ให้ฟัง ไม่ใช่ไปกล่าวหา ไปแถ ใส่ร้ายว่านายกฯข่มขู่ ทำเป็นดัดจริต ทำเป็นกลัว คนอย่างพวกคุณพระมหากษัตริย์ยังไม่กลัว แล้วจะกลัวกฎหมายได้อย่างไร
“ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องโดนลงโทษ ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน” ถ้าไม่คิดจะทำผิดกฎหมายก็ไม่ต้องกลัว แต่ถ้าไม่กลัวกฎหมายเวลาถูกทำโทษก็อย่าหอนแล้วกัน”
ขณะเดียวกัน อีกสาว “ช่อ” นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ว่า
“คนที่บริหารประเทศมา 6 ปี มีแต่เศรษฐกิจ การเมือง คุณภาพชีวิตตกต่ำลง สืบทอดอำนาจ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ไม่เห็นหัวประชาชนต่างหาก ที่ต้อง #ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน อย่าดูถูกพลังของประชาชนที่จะไม่จำนนกับอำนาจเถื่อนอีกต่อไป”
ไม่เพียงเท่านั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์ทวิตเตอร์ Wiroj 77 ระบุว่า
“กรณีนายกฯ พูดขู่ในสภาว่า #ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน แถมยังพูดตอบโต้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากประธานท่านนายกฯ ได้ขอโทษต่อสภาแล้วครับ
ผมยกโทษให้ แต่ขอว่า ท่านอายุเท่าไหร่แล้ว อะไรดีไม่ดี ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ ไม่ควรต้องให้เด็กรุ่นลูกมาสอน คราวหน้าอย่าทำอีกก็แล้วกันครับ”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่รัฐสภา ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐบาล และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยทิ้งท้ายว่า
“หลายคนพูดเก่งผมยอมรับ แต่อย่ามากล่าวหาว่า ผมใช้กฎหมายกับผู้เห็นต่าง กฎหมายอยู่เฉยๆ ผมก็นั่งเฉยๆ ใครทำผิดต้องถูกลงโทษ ผมสั่งเขาได้หรือถ้าสั่งได้ คงไม่เป็นแบบนี้ แต่ผมไม่ได้สั่ง ระวังตัวบ้างก็แล้วกัน กฎหมายมีผลบังคับใช้กับทุกคน แม้กระทั่งผมก็ยอมรับกฎหมาย วันก่อนเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยกลับไปย้อนดู ความต้องการของประชาชนไม่มีวันสิ้นสุด ผมเข้าใจ แต่อย่าลืมว่าความต้องการของท่านมีอะไรได้รับการตอบสนองไปแล้วบ้าง พูดอย่างเดียวไม่ได้ ท่านต้องหาวิธี ไม่ใช่ใช้การท้าทาย”
ต่อมา นางอมรัตน์ โชควินิจกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงลุกขึ้นประท้วงว่า ที่นายกฯ บอกว่า ให้ระวังตัวนั้นจะต้องระวังตัวเรื่องอะไรบ้าง เพราะดิฉันจะได้เตรียมตัว ทำให้นายกฯ ลุกขึ้นตอบโต้ทันควันว่า
“จะพูดอย่างไม่เข้าใจแบบนี้ไม่ได้ ที่ตนบอกให้ระวังตัวคือระวังตัวในเรื่องของข้อกฎหมายที่อาจจะทำผิดได้ ตนก็ระวังของตน ท่านก็ต้องระวังของท่าน ความหมายของตนคือแค่นี้ ไม่ได้ไปขู่อะไรท่าน เข้าใจไหม ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดอะไรจะกลัวอะไร” เมื่อนายกฯ พูดจบก็เดินออกไปจากที่นั่งทันที
ด้าน นางอมรัตน์ ตอบสวนว่า หากมีคนข้างบ้านมาพูดกับดิฉันว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ ดิฉันก็ตีความได้ว่า เป็นการข่มขู่ ทำให้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เบรกว่า มันจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ทำให้ นางอมรัตน์ สวนกลับว่า “อ๋อดิฉันเข้าใจผิดใช่ไหมคะ งั้นท่านนายกฯ ก็ระวังตัวไว้ด้วยก็แล้วกัน” นายศุภชัย จึงตอบโต้ว่า “อ๋องั้นก็แปลว่าต่างฝ่ายต่างบอกให้ระวังตัวก็ถือว่าจบแล้วนะ”....
นั่นเป็นเรื่องในสภา แต่เรื่องนอกสภา ที่ถือเป็น “ก้างชิ้นใหญ่” ติดคอ “คณะก้าวหน้า” อยู่ ซึ่งก็คือ อดีตลูกพี่ใหญ่ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล อยู่ในเวลานี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยอยู่พรรคอนาคตใหม่ด้วยกัน ก็คือ โครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ แหกตาประชาชน เรื่องนี้หลังจากมีการแฉทางโซเชียล และมีข้อสงสัยหลายอย่าง แต่ก็ไม่มีใครจากคณะก้าวหน้าออกมาชี้แจง แสดงหลักฐานที่ชัดเจน แม้แต่ “ช่อ” ที่ก่อนหน้านี้ขู่คนที่นำเอาเรื่องนี้มาแฉว่าจะฟ้องภายใน 24 ชั่วโมง ก็ไม่ทำตามที่พูดเอาไว้
ด้วยเหตุนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จึงโพสต์เฟซบุ๊ก warong dechgitvigrom หัวข้อ “กล้ารับคำท้าพิสูจน์ไหม”
เนื้อหาระบุว่า “ผมขอกล่าวหา ท้าพิสูจน์ความจริง เพื่อความโปร่งใสของคณะก้าวหน้า ภายใต้การนำของคุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณช่อ
“ผมกล่าวหาว่า โครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ ที่คณะก้าวหน้ารับบริจาคมา 7.2 ล้านบาท และอ้างว่า มอบเงินให้กับประชาชน ไม่ต้องพิสูจน์ความจน 2,427 รายนั้น ได้ไม่ครบจริงตามรายชื่อที่อ้าง”
พร้อมรับคำท้าพิสูจน์ไหมครับ คุณธนาธร คุณปิยบุตร และคุณช่อ... ติดตามรายละเอียดตอนต่อไปพรุ่งนี้เช้า ได้ที่เพจ : Warong Dechgitvigrom เช่นเคย
รบกวนเพื่อนๆ ช่วยสื่อสาร ถึงพวกเขาด้วยครับ เพราะสังเกตดูว่า ช่วงนี้พวกเขาดูเงียบผิดปกติ
#ตามหาเสตทเม้น
#กล้ารับคำท้าพิสูจน์ไหม
#หยุดโกหกประชาชน”
อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่อาคารไทยซัมมิท ชั้น 8 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ โพสต์ข้อความท้าให้ชี้แจงรายละเอียดโครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ ว่า วันนี้ตนอยากพูดเฉพาะประเด็นท้องถิ่น แต่ยืนยันว่า พร้อมที่จะชี้แจง อีกทั้งก่อนหน้านี้ ก็มีการเปิดเผย Statement ไปแล้ว
ส่วนอาจมีคนสงสัยว่า นายธนาธร และคณะก้าวหน้า เป็นลูกพี่ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล จริงหรือ ก็ลองติดตามเรื่องนี้
วันนี้เช่นกัน ที่รัฐสภา หลังอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท มีการลงมติวาระแรก ผลปรากฏว่า รับหลักการ 273 เสียง ไม่รับหลักการ 200 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง จากนั้นได้มีการตั้งกรรมาธิการพิจารณาแปรญัตติ 72 ราย
ในส่วนของพรรคก้าวไกล ได้เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง เป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการพิจารณาแปรญัตติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ในสัดส่วนของพรรค
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อปี 62 นายธนาธร เคยเป็นกรรมาธิการพิจารณางบประมาณปี 2563 สัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ แต่เจ้าตัวยื่นหนังสือลาออกเมื่อ 29 พ.ย. 62 โดยอ้างว่าต้องการออกมาทำงานรณรงค์ทางการเมืองกับประชาชน
ครั้งนั้น นายธนาธร ให้สัมภาษณ์เหตุผลการลาออกต่อสื่อมวลชนว่า “ในเมื่อพวกเขาไม่อยากให้ผมทำงานในสภา ผมก็จะออกไปอยู่กับประชาชน”
เห็นได้ชัดว่า ทั้งคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ยังคงเล่นการเมืองห่างไกลคำว่า “สร้างสรรค์” อย่างมาก และยังคงยึดติดอยู่กับการเมือง “น้ำเน่า” ที่พวกเขารังเกียจหนักหนา และพยายามสร้างจุดขายว่าจะสร้างการเมืองแบบใหม่ ที่สร้างสรรค์ให้กับสังคมไทย รวมทั้งคิดแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ
แต่แค่เรื่องรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ทั้งยังเป็นคนในกลุ่มเป้าหมายของตัวเองด้วย ยังส่อว่ามีการแหกตาประชาชนหน้าตาเฉย เพราะหลบเลี่ยงที่จะชี้แจงแสดงหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง อย่างนี้ คนไทยที่เชื่อก็มีแต่ “ซอมบี้” เท่านั้น หรือยังมีคนอื่นอีก?