“แรมโบ้อีสาน” สวนกลับ ส.ส.ก้าวไกล ยืนยันนายกฯ ไม่ได้ข่มขู่ แต่พูดในข้อเท็จจริงที่คนไทยทุกคนต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ทำผิดกฎหมาย เสียดายชื่อพรรคก้าวไกล แต่ ส.ส.บางคนยังทำตัวไม่ก้าวไกล มีแต่พฤติกรรมถอยหลังลงคลองมากกว่า ชอบใช้วาทกรรมใส่ร้ายเสียดสี ถากถางตลอดเวลา ทำการเมืองแบบเก่าๆ ไม่ก้าวไกลเหมือนชื่อพรรค
วันนี้ (4 ก.ค.) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีมองคนเห็นต่างเป็นศัตรู และมีบางช่วงบางตอนที่นายกฯระบุว่า “ขอให้ระวังตัว” จนทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่า เป็นการข่มขู่นั้น โดยระบุว่าเจตนาของนายกฯที่พูดไปแบบนั้น นายกฯก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า คือ ต้องระวังตัวที่จะทำผิดกฎหมายเอง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ทำผิดกฎหมายอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
นายสุภรณ์ ยังเชื่อว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล ย่อมรู้ดีในเจตนาคำพูดของนายกฯอยู่แล้ว แต่ทำเป็นแกล้งไม่เข้าใจ เพราะอาจอยากจะทำลายบรรยากาศการประชุมสภาที่มีการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 64 ที่เป็นไปได้ด้วยดี หรืออาจรวมถึงบรรยากาศของบ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยทั้งประเทศมีความร่วมมือกับรัฐบาลฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ตามแนวทาง “รวมใจ สร้างชาติ” พร้อมกันนี้ มั่นใจว่า นายกฯไม่ติดใจกับคำพูดต่างๆ ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล เพราะขณะนี้นายกฯและรัฐบาลมุ่งเน้นแต่จะเอาเวลามาทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติให้ดีที่สุด ไม่มีเวลามาเล่นการเมืองหรือโต้ตอบทางการเมืองกับใครทั้งสิ้น
“พรรคก้าวไกล ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มาจากคนรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ แต่กลับยังเล่นการเมืองแบบเก่า ที่ไม่สร้างสรรค์ มุ่งเน้นโจมตีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้นอกจากจะไม่ก้าวไกลแล้ว ตนมองว่า เป็นการเดินถอยหลังมากกว่า เพราะยังเป็นการเมืองแบบเก่า ใช้วาทกรรม เสียดสี ถากถาง เหน็บแนม สไตล์การเมืองน้ำเน่าไม่มีการพัฒนาขึ้นเลยสักนิด เสียดายที่ประกาศเป็นพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ แต่กลับทำตัวยิ่งกว่าการเมืองยุคเก่าๆ
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า “ตลอดระยะเวลาการทำงานของนายกฯและรัฐบาล ได้รับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายทุกพรรคการเมือง และเรียกร้องหาความร่วมมือในการทำงานเพื่อประชาชนเพื่อประเทศชาติ เห็นได้จากการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 64 ที่รัฐบาลเน้นการวางรากฐานในการพัฒนาและแก้ปัญหาทุกด้านให้ประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งเน้นการส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ มีการกระจายผลประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงทั่วถึงเป็นธรรม จึงขอให้เชื่อมั่นว่าทุกโครงการที่ใช้จ่ายงบประมาณ เป้าหมายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนสูงสุดอย่างแท้จริง” นายสุภรณ์ กล่าว