“ภาคภูมิ บูลย์ประมุข” ส.ส.เขต 3 จ.ตาก พปชร. วอน ก.ส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น จัดสรรงบประมาณให้ตรงตามความต้องการของท้องถิ่น เพื่อไม่ให้มีการคืนงบพร้อมขอเร่งเงินอุดหนุนงบประมาณบรรเทาสาธารณภัยให้อีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับนำไปแก้ไขภัยแล้ง
วันนี้ (2 ก.ค.) นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 โดยระบุว่าจากการฟังคำแถลงของนายกรัฐมนตรีประกอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2564 ได้กล่าวถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขตเศรษฐกิจพิเศษของ จ.ตาก โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้เขตเศษฐกิจพิเศษอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสะพานมิตภาพไทย- เมียนมาแห่งที่ 2 สร้างถนน 4 เลนเส้นทางจังหวัดตาก อ.แม่สอด ทำให้ความปลอดภัยก็สูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้จัดสรรงบประมาณพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ซึ่งเปิดใช้แล้ว การก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งช่วงแรกอาจจะเกิดความล่าช้าเนื่องจากติดขัดปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเรื่องการเวนคืนที่ดิน การทำความตกลงของชาวบ้านในบริเวณนั้น แต่ปัจจุบันนี้ทางท่าอากาศยานและท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอดได้เร่งรัดการดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสัญญาให้ผู้รับจ้างและมีการเร่งทำงานปัจจุบันทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อจะให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้ยังมีการขยายรันเวย์จากเติม 1.5 กิโลเมตรเป็น 2.1 กิโลเมตรโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีการปีงบประมาณ 2564 ก็จะทำให้สามารถรองรับเครื่องบินต่างๆได้มากขึ้นเพราะปัจจุบันท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอดรองรับเครื่องบินได้แค่เครื่องบินใบพัด อยู่ประมาณ 70 ที่นั่ง ซึ่งทำให้มีค่าโดยสารแพงมากเพราะผูกขาดกับบริษัทเดียวโดยหากว่ามีการทำเสร็จจะสามารถทำให้เครื่องบินขนาดโบอิ้ง ประมาณ 150 ที่นั่นสามารถลงได้ และยังทำให้ต้นทุนถูก มีการแข่งขันสูงขึ้น ประชาชนในพื้นที่ทำประโยชน์อีกครั้ง
นายภาคภูมิ ระบุว่าในอนาคตไม่เกิน 5 ปีเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด คาดการณ์ว่าจะมีชาวจีนเข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือว่ามาเป็นทำธุรกิจออนไลน์ในบริเวณตะเข็บชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา เนื่องจากตอนนี้ทางฝั่งพม่ามีการสร้างเมืองใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าหากว่ามีการรองรับไม่ว่าจะเป็นสนามบิน จะทำให้เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดจังหวัดตากมีความเจริญขึ้นแบบก้าวกระโดด
ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องต่างๆในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้วย เช่นการให้สิทธิพิเศษต่อนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเงินทุนหรือการยกเว้นภาษี หรืออำนวยความสะดวกต่างๆให้ลงทุน ก็จะทำให้นักลงทุนที่มาลงทุนในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังอภิปรายถึงการจัดสรรงบประมาณให้กับกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทย ที่มีอบต.ทั้งหมด 7,852 แห่งได้รับงบประมาณจากท้องถิ่นในปีนี้มีการจัดสรรแบบ 2 รูปแบบรับงบประมาณจากสำนักงบโดยตรงมีกรุงเทพ พัทยา อบจ. และปีนี้ก็มีน้องใหม่คือเทศบาลนคร เทศบาลเมือง แต่องค์กรเหล่านี้ไม่น่าห่วงเพราะว่าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และมีศักยภาพในการช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว และยังมีบุคลากรมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
และอีกส่วนหนึ่งคือการจัดสรรงบประมาณของกรมส่งเสริมในส่วนของเทศบาลตำบล และ กับ อบต ค่อนข้างมีปัญหาในการจัดสรรงบประมาณไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่จัดสรรลงไปแล้วไม่เพียงพอต่อความต้องการ หรือว่าเป็นการจัดสรรที่ไม่ตรงตามความต้องการ บางครั้งอปท. ขอมาอย่างหนึ่งกรมส่งเสริมจัดให้อีกอย่างหนึ่งโดยได้ยกตัวอย่างเช่นที่ผ่านมามีการจัดสรรงบประมาณของปี 63 อาคารเรียนไปให้ท้องถิ่นในจังหวัดตาก โดยท้องถิ่นจะต้องคืนงบเพราะงบประมาณจากที่ขอไปสำหรับสร้างอาคารเรียน 2 ชั้นแต่กรมส่งเสริมให้มาดำเนินการ 3 ชั้น ซึ่งไม่ตรงตามความต้องการ ดังนั้นจึงต้องส่งงบประมาณคืนทำให้ประชาชนในพื้นที่เสียประโยชน์ ไม่มีอาคารเรียน ดังนั้นจึงขออยากจะให้กรมส่งเสริมพิจารณาในจุดนี้ แล้วจัดสรรงบประมาณให้ตรงตามต้องการด้วย
นายภาคภูมิ ยังได้อภิปรายเรื่องอุดหนุนงบประมาณบรรเทาสาธารณภัยให้แก่ท้องถิ่นต่างๆ จะเห็นได้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเป็นองค์กรที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นตัวแทนของท้องถิ่นซึ่งจะรู้ปัญหาว่าจะแก้ไขภัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งและอุทกภัยต่างๆ สามารถแก้ไขได้รวดเร็วตรงตามจุดประหยัดงบประมาณ ที่ผ่านมากรมส่งเสริมได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องแล้วก็หลายๆท้องถิ่นได้รับงบประมาณแล้ว แต่หลายท้องถิ่นที่ยังไม่ได้รับงบประมาณจากส่วนนี้ จึงอยากจะให้กรมส่งเสริมพยายามเร่งรัดจัดสรรงบประมาณให้กับพี่น้องประชาชนเร่งด่วน เพราะในหลายพื้นที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณไปแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พร้อมกันนี้ยังได้สรุปภาพรวมของงบประมาณฉบับนี้ โดยเห็นว่าสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยไปได้อย่างต่อเนื่อง จึงขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัตินี้อย่างเต็มที่.