นายกฯ เตือนอย่าเอาการเมืองมาปนกับการบริหารราชการแผ่นดิน พูดชัดไม่ปรับ ครม.ตอนนี้ ข่าวที่ออกมาให้ไปถามนักการเมืองที่พูด เผย“บิ๊กป้อม”ยังมีกำลังดี ไม่เคยบอกอยากเป็นหัวหน้า พปชร. แต่ถ้าจำเป็นก็จะทำให้ดีที่สุด วอนแต่ละก๊กลดราวาศอก ไม่ใช่รวมกลุ่มเพิ่มอำนาจต่อรอง ย้ำต่อรองกับตนไม่ได้
วันนี้ (22 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงแถลงการณ์ไทยสร้างชาติ ที่ระบุให้นักการเมืองต้องก้าวข้ามเกณฑ์การเมืองว่า คำว่าเกมการเมืองในความหมายของตนคือทำอย่างไรให้การเมืองกับการบริหารราชการแผ่นดินไม่มาพันกันมากนัก การบริหารราชการแผ่นดิน คือ กลไกเลือกตั้ง ส.ส.และมาเป็นรัฐบาล เป็นคณะรัฐมนตรี และบริหารราชการแผ่นดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายที่ให้ไว้ 12 ข้อ เดินไปอย่างนี้โดยให้มีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ไม่มีการทุจริต นั่นคือการบริหารราชการแผ่นดิน
“การเมืองเป็นเรื่องของการเลือกกรรมการบริหารพรรค เรื่องการคัดเลือกใครเป็นรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องของเขา อย่าเอาอันนั้นมาตีกันตรงนี้ จะเอาตรงนั้นมากดดันผมไม่ได้ เพราะผมเคารพในสัดส่วนของแต่ละพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่บางส่วนผมจำเป็นต้องบริหารเอง เข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่จะตั้งกันมาจนเกินคณะรัฐมนตรีแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่นักการเมืองยังคงคลื่อนไหวประเด็นการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า ยังไม่ปรับตอนนี้ ข่าวการปรับ ครม.ที่ออกมากันตอนนี้ก็ไปถามนักการเมืองคนที่พูดเอา เมื่อถามว่ารัฐมนตรีบางคนกลัวโดนยึดเก้าอี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไปถามเขาสิว่าใครจะไปยึดของเขา
เมื่อถามว่านายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ระบุว่าพร้อมเป็นรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เฮอะ เอาเถอะ เธอก็เป็นสิ” เมื่อถามว่าข่าวการปรับ ครม.ตอนนี้ทำให้นายกฯ เสียสมาธิการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ยังดีอยู่ ยังมีกำลังใจจากประชาชน นักการเมืองหลายคนก็ดีกับตน คำว่าดีกับตนคือเขาร่วมมือกับตนดี คือพูดอะไรก็ฟังกัน ต่างคนต่างต้องฟังกัน เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐที่จะได้รับการเทียบเชิญไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คิดว่าท่านมีกำลังของท่านดีอยู่แล้ว ท่านรับปากว่าหากมีความจำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านก็จะทำให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าท่านอยากเป็นหรือไม่ ท่านไม่เคยบอกว่าอยากเป็น แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็นท่านอาจจะต้องเป็นเอง ก็ทราบมาอย่างนี้
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อขัดตาทัพ ทำภารกิจบางอย่าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ภารกิจบางอย่างคืออะไร เมื่อถามว่า ภารกิจปรองดองสมานฉันท์ก๊กแต่ละก๊กในพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ไปทำกันเอง แล้วมันควรจะเป็นก๊กกันหรือไม่ เมื่อถามว่า แต่ยังไม่มีมีความเป็นไปได้ในการที่นายกฯ จะไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในอนาคตใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดอะไรเลย เมื่อถามว่านายกฯ มองว่าพรรคที่สนับสนุนให้ท่านนายกฯ เป็นนายกฯ ไม่ควรจะแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของวิถีทางการเมืองซึ่งมันก็มีอยู่แล้วในของเดิม แต่ทำอย่างไรมันจะลดราวาศอกกันลงบ้าง คิดว่าเขาก็ฟังตน นี่คือสิ่งที่ใครก็ตามที่ไปเป็นหัวหน้าพรรคก็ทำหน้าที่นี้ให้มันสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ว่าทุกคนพยายามจะมีกลุ่มมีพวกกันเยอะๆ เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของพรรค จะเสนอหรือใครจะเป็นอะไรก็ต้องเป็นเรื่องของพรรค และนายกฯ จะคัดกรองอีกที
เมื่อถามว่าจะมาต่อรองอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมว่าไม่น่าได้” เมื่อถามว่าได้คุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง เพราะมีข่าวว่าได้ไลน์คุยกัน นายกฯ กล่าวว่า กระแสข่าวใครเป็นคนเขียน เราบอกแต่เพียงว่ายังไม่ได้ปรับในตอนนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ปรับในวันหน้า เมื่อถามว่า นายกฯ ช่วยเปิดมาสก์แล้วพูดดังๆ ให้ชัดว่ายังไม่ปรับ ครม.ในตอนนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดไปอย่างนี้จะหูตึงกันหรืออย่างไร