อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ อ้างเป็นตัวแทนภาคประชาชน ยื่นหนังสือร้อง กสม.เร่งประสานรัฐบาลไทย-กัมพูชา ตามหาตัว “วันเฉลิม” อ้างคนทั้งคนกลับเพิกเฉย ขนาดหมาหายตัวเดียวยังตามหากันทั้งประเทศ
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายสิรวิทย์ ช่วงเสน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 สุราษฎร์ธานี พรรคไทยศรีวิไลย์ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกสม.ขอให้เร่งประสานงานทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา เพื่อติดตามตัวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อดีตแอดมินเพจ"กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ"และคณะทำงานสถาบันเยาวชนเพื่อไทยของพรรคเพื่อไทย ที่มีกระแสข่าวถูกอุ้มหายที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายสิรวิทย์อ้างว่า กรณีดังกล่าวมีภาพวิดีโอและมีพยานบุคคลยืนยันว่านายวันเฉลิมถูกอุ้ม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญของคนไทยและประชาคมโลก ถือเป็นเรื่องของการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง แต่กลับพบว่า 4-5 วันหลังเกิดเหตุ รัฐบาลไทยและกัมพูชาเพิกเฉยเหมือนเรื่องนี้ไม่สำคัญ ตนในฐานะที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจึงยอมไม่ได้ การมายื่นหนังสือครั้งนี้เพื่ออยากให้ทุกภาคส่วนได้ช่วยกันประสานติดตามตัวนายวันเฉลิม
“เมื่อวานทางรัฐบาลกัมพูชาบอกว่ายังทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่มีข้อมูล ขณะที่ตำรวจไทยก็ออกมาระบุออกมาในทำนองเดียวกัน ในความรู้สึกผมยังคิดว่าจะเป็นไปได้อย่างไร คนหายไป 4-5 วัน เป็นข่าวโด่งดัง ขนาดที่ยูเอ็นยังให้ความสำคัญ แต่หน่วยงานของราชการของเรากลับบอกว่ายังไม่มีข้อมูล ขนาดหมาหายตัวเดียวยังตามหากันทั้งประเทศ แต่นี่คนหายทั้งคนถือเป็นเรื่องใหญ่ ลองคิดดูถ้าลองเป็นญาติพี่น้องเรา ไปต่างประเทศแล้วอยู่ดีๆ หายไปจะรู้สึกอย่างไร ผมไม่เข้าใจว่ารัฐบาลทำไมถึงเพิกเฉย ไม่เร่งประสานไปทางกัมพูชาเพื่อหาตัวนายวันเฉลิม หรือรอดูกระแสโลกโซเชียลฯ ว่าจะเรียกร้องอย่างไร ถ้าไม่มีเสียงเรียกร้องก็จะนิ่งๆ ไปหรือ รัฐบาลควรเร่งดำเนินการให้ได้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ผมไม่อยากให้ประชาคมโลกมองว่าเราด้อยพัฒนา”นายสิรวิทย์กล่าว
ด้านนายชนินทร์ เกตุปราชญ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและติดตามการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ผู้รับเรื่อง ได้ชี้แจงว่า ประธาน กสม.ได้มีการประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้วเมื่อวาน ก็รอว่ากระทรวงการต่างประเทศจะประสานสถานทูตไทยและทางการกัมพูชาเพื่อมาประมวลว่าความจริงเกิดขึ้นอย่างไร หากญาติมีข้อมูลพยานหลักฐานอะไรก็ส่งได้ที่กระทรวงการต่างประเทศจะได้นำไปประมวล ซึ่งก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณา ส่วนข้อเสนอให้มีการตรากฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ทาง กสม.ก็พยายามกระตุ้นเร่งรัดไปยังคณะรัฐมนตรีให้ออกมาเป็นกฎหมาย
อนึ่ง นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้หลบหนีออกนอกประเทศหลังจากถูกออกหมายจับในคดีฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ให้ไปรายงานตัวหลังจากการรัฐประหารวันที่ 22 พ.ค.2557 และต่อมาถูกแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560