ปธ.กสม. ห่วงกรณี “วันเฉลิม” สูญหาย ชี้ เหตุเกิดนอกประเทศ จึงไม่อยู่ในอำนาจ กสม. ที่จะตรวจสอบได้-ประสาน กต.เร่งแสวงหาข้อเท็จจริง แนะรัฐบาลเร่งออกกฎหมายป้องกันการทรมาน-บังคับสูญหาย สร้างหลักประกันคุ้มครองสิทธิฯ ปชช.
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวกรณีกระแสข่าว นายวันเฉลิม หรือ ตาร์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองชาวไทย ที่อาศัยอยู่กัมพูชา ถูกอุ้มหายตัวไป และมีกระแสเรียกร้องจากองค์กรต่างๆ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ดำเนินการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกรณีดังกล่าว ว่า นอกจากกรณี นายวันเฉลิม แล้ว ยังมีกรณีกล่าวอ้างว่า นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวไทยที่ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ถูกบังคับให้สูญหายอีกหลายกรณี ได้แก่ กรณี นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กับพวกอีกสองคน คือ นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ และ นายไกรเดช ลือเลิศ ได้หายตัวไปจากบ้านพักขณะที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กรณี นายสยาม ธีรวุฒ กับพวกอีกสองคน คือ นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ และ นายกฤษณะ ทัพไท ถูกจับกุมที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และส่งตัวกลับมายังประเทศไทย แล้วไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด แต่กองบังคับการปราบปรามได้ยืนยันว่า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดทำการจับกุมตัวนายสยามมาส่งมอบแก่พนักงานสอบสวน นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และได้รับแจ้งเป็นการภายใน ว่า ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามายังสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามของนายสยามและพวกอีกสองคนแต่อย่างใด ในเรื่องนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีข้อเสนอแนะไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของคนไทยในต่างประเทศ แต่เหตุการณ์ตามข้อกล่าวอ้างเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบได้ แต่สมควรดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจโดยตรง ดังนั้น จึงได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือพยานหลักฐาน เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศอาจประสานกับครอบครัวของนายวันเฉลิมให้ส่งข้อมูล หรือพยานหลักฐานทั้งปวงที่แสดงว่ามีการถูกบังคับให้สูญหายไปยังกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ที่ผ่านมา กสม. มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการตรากฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ภายใต้เจตนารมณ์ที่สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (ICPPED) ซึ่งประเทศไทยได้ให้ความเห็นชอบในหลักการแล้ว พร้อมทั้งขอให้คณะรัฐมนตรีเร่งเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (ICPPED) ด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันที่ชัดเจนในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน”