ศบค.แถลงพบหนุ่มไทยกลับจากคูเวตติดเชื้อ 1 ราย ในสถานที่กักตัวรัฐ ชี้สนามบินภูเก็ตยังปิด เหตุเป็นพื้นที่เสี่ยง รอลุ้นเฟส 4 หลังประชุมศบค.ชุดใหญ่สัปดาห์หน้า
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 รายอยู่ในสถานที่กักตัวรัฐจัดให้ เป็นชายไทยอายุ 45 ปี กลับจากประเทศคูเวต อาชีพรับจ้างในแคมป์โรงงานเอกชน กลับไทยวันที่ 24 พ.ค. เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐในกทม. ตรวจครั้งแรก วันที่ 26 พ.ค. ไม่พบเชื้อ และพบเชื้อในการตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 มิ.ย. แต่ไม่มีอาการ รักษาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,102 หายป่วยสะสม 2,971 ราย และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยังคงเท่าเดิม คือ 58 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อ 6,698,370 ราย เสียชีวิต 393,142 ราย ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าสนใจ พบว่าประเทศจีนเผยแพร่งานวิจัยที่สำรวจผู้ป่วยในการระบาดที่เมืองอู่ฮั่นจำนวน 78 ราย โดยแยกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่แสดงอาการ 45 ราย และไม่แสดงอาการ 33 ราย ซึ่งกลุ่มที่ไม่แสดงอาการจะมีอายุเฉลี่ย 37 ปี แม้ไม่มีอาการแต่สามารถแพร่เชื้อได้ถึง 12 วันโดยเฉลี่ย 8 วัน ส่วนผู้ที่แสดงอาการมีอายุเฉลี่ย 56 ปี มีระยะแพร่เชื้อสูงสุด 24 วัน เฉลี่ย 19 วัน ทำให้สรุปได้ว่าผู้ป่วยที่อายุน้อยมักไม่แสดงอาการ ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษ เปิดเผยว่าจะต้องมีการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าอังกฤษเป็นเวลา 14 วันในสถานที่ที่กำหนด โดยจะเริ่มในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ส่วนประเทศอิตาลี เป็นประเทศแรกในยุโรปที่เปิดพรมแดนเต็มที่ และยกเลิกเงื่อนไขกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ ประเทศเยอรมนี ประกาศเปิดพื้นที่ชายแดนเช่นกัน เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และประเทศเบลเยียมจะเปิดพรมแดนสำหรับประชาชนในสหภาพยุโรปเช้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.และสถานบันเทิงต่างๆจะกลับมาเปิดในวันที่ 8 มิ.ย. ส่วนโรงภาพยนตร์เปิดวันที่ 1 ก.ค. โดยจำกัดผู้เข้าชม 200 คน สำหรับผลการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงในช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 4 มิ.ย. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 5 มิ.ย. ออกนอกเคหสถาน 236 ราย ชุมนุมมั่วสุม 22 ราย มากกว่าคืนก่อน 12 ราย
เมื่อถามว่าหลายสนามบินกลับมาเปิดให้บริการ แต่เหตุใดสนามบินภูเก็ตยังไม่เปิดให้บริการ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทางศบค.โดยแบ่งสนามบินออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ท่าอากาศยานที่อยู่นอกสังกัด บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอโอที ที่ไม่พบประวัติการแพร่ระบาดโควิดภายใน 14 วัน และมีระบบควบคุมโรคที่ดี และ 2. ท่าอากาศยานในสังกัดเอโอทีมีประวัติการแพร่ระบาดประปรายในระยะเวลา 14 วัน และมีระบบควบคุมโรคที่ดี และ3.ท่าอากาศยานในสังกัดเอโอที อยู่ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง มีการแพร่ระบาดโควิดจำนวนมาก และระบบควบคุมโรคยังคงต้องมีการประเมินอยู่ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตยังมีการแพร่ระบาดเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมายังไม่ถึง 14 วัน จึงต้องมีการพิจารณาหากหลังจากนี้ ไม่มีการแพร่ระบาดอีก เชื่อว่าศบค.ชุดใหญ่จะให้เปิดสนามบินอย่างแน่นอน ส่วนที่บางจังหวัดยังต้องกักตัวผู้เดินทางเข้าพื้นที่อยู่นั้น ก็เช่นเดียวกันประเทศไทยและต่างประเทศที่มีมาตรการต่างกัน ทำให้เขาควบคุมโรคได้ หากใครจะเข้าพื้นที่ต้องศึกษาหลักเกณฑ์ของเขาและต้องปฏิบัติตาม และเชื่อว่าจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็อยากให้มีการเดินทางเข้าจังหวัด สอดคล้องกับนโยบายผอ.ศบค.ที่อยากให้มีการเดินทางภายในประเทศมากขึ้น
เมื่อถามต่อว่าจะมีการผ่อนปรนเฟซ 4 เมื่อใดและจะมีการเปิดงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต ผับ บาร์ และกิจการอาบ อบ นวด พร้อมกันเลยหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผอ.ศบค.ให้หลักการไว้ว่ากิจการอะไรที่พร้อมก็จะให้เปิดบริการก่อน แต่คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำการศึกษาและตัดสิน โดยมีการนำเสนอข้อมูลและแนวทางจากผู้ประกอบกิจกรรมและกิจการต่างๆ เมื่อได้ในภาพรวมที่ชัดเจนแล้วก็จะนำเสนอศบค.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า แต่ถ้ายังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก็จะส่งให้เป็นการบ้านของเจ้าของกิจกรรมและกิจการนั้นๆเพื่อส่งรายละเอียดกลับมาใหม่ ซึ่งจะมีกลายหน่วยงานกันพิจารณา เชื่อว่าเร็วๆนี้จะมีข่าวดี