ศบค.ขยายผ่อนปรนระยะ 3 เปิด 9 กิจกรรม “มวย-บอล-บาส” ซ้อมได้ โรงหนังจำกัดไม่เกิน 200 คน เสริมความงามใบหน้าได้แต่ต้องสวมหน้ากาก ขณะที่ผ่อนปรน “นวดแผนไทย” แต่ห้าม “อาบอบนวด-ดื่มสุรา” ในร้าน ให้ซื้อกลับบ้าน
วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) แถลงว่า ศบค.ได้พิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการผ่อนปรนในระยะที่ 3 โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปในประเด็นแรก คือ การผ่อนปรนการใช้อาคารโรงเรียน สถานศึกษา เพื่อใช้สอบคัดเลือกและอบรมระยะสั้น แต่ยังไม่ได้เปิดให้มีการเรียนการสอน รวมถึงให้เปิดโรงเรียนนอกระบบเฉพาะเอกชน เฉพาะวิชาชีพ ศิลปะ และการกีฬา ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ผ่อนปรนกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ได้แก่ 1. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดดำเนินการจนถึงเวลา 21.00 น. 2.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ จำกัดพื้นที่รวมไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร และให้ปิดไม่เกินเวลา 21.00 น. 3. สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง สามารถเปิดบริการได้ แต่ต้องห้ามให้มีคนมาชุมนุมหนาแน่นและไร้ระเบียบ 4. ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับ บุรุษหรือสตรี ซึ่งการให้บริการที่จะทำได้เพิ่มนั้น คือ การทำสีผม รายละไม่เกิน 2 ชั่วโมงและห้ามมีผู้นั่งรอในร้าน 5. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน เปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ประกอบอาหารสำหรับเด็ก เพื่อแจกจ่ายเครื่องดื่มและอาหารกลางวันให้ผู้ปกครองนำกลับไปให้เด็ก
พล.อ.สมศักดิ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติผ่อนปรนกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ ได้แก่ 1. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานที่สัก หรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย สามารถทำได้ทั้งตัว จากเดิมที่อนุญาตให้ทำตั้งแต่คอลงไป แต่ในระยะที่ 3 จะเปิดให้ทำใบหน้าได้ แต่ยังมีความกังวลการสัมผัสใบหน้าที่อาจจะแพร่เชื้อได้ จึงแนะนำผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยระหว่างรับบริการ ขณะที่การสักคิ้วยังพอทำได้ แต่อย่าเพิ่งไปทำศัลยกรรมจมูก 2. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย สามารถเปิดได้ งดการอบตัว อบสมุนไพร อบไอน้ำแบบรวม นวดใบหน้า และนวดฝ่าเท้า ยกเว้นกิจการอาบน้ำ กิจการอาบอบนวด
3. สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ให้เปิดสถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า โดยผ่อนคลายให้สามารถทำกิจกรรมได้ทั้งหมด แต่มีข้อจำกัดระยะเวลาในการใช้บริการ และจำนวนผู้ใช้บริการ 4. สนามกีฬา เพื่อออกกำลังกาย หรือฝึกซ้อม ได้แก่ ฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล โดยไม่มีการแข่งขัน และมีรวมกิจกรรมไม่เกิน 10 คนไม่นับผู้เล่น รวมถึงมวยอนุญาตให้เปิดค่ายฝึกซ้อมกับอุปกรณ์โดยไม่มีคู่ซ้อม
5. สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเกต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน เปิดเฉพาะการออกกำลังกายหรือการฝึกซ้อม 6. สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ 7. สระน้ำ เพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกี ไคท์เซิร์ฟ เครื่องเล่นประเภทบาบาน่าโบ๊ท ซึ่งต้องไม่เป็นการแข่งขันและต้องจำกัดจำนวนผู้เล่นและมีมาตรการการทำความสะอาด ซึ่งยังไม่รวมถึงกิจกรรมตามชายทะเล 8. โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ ซึ่งการฉายภาพยนตร์แต่ละเรื่องต้องมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 200 คน ส่วนโรงมหรสพแบบเฉพาะลิเก ลำตัด การแสดงพื้นบ้าน งดแสดงดนตรี คอนเสิร์ต และ 9. สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ จำกัดผู้ร่วมกิจกรรมที่เป็นการรวมกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เราทราบดีว่ากิจกรรมเหล่านี้มีความเสี่ยงแพร่เชื้อค่อยข้างสูงมาตรการที่ต้องทำควบคู่ไปก็คือ ต้องสวมหน้ากากอนามัย การวัดไข้ เว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนคน เป็นต้น
พล.อ.สมศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการบังคับด้านกฎหมายยังควบคุมการเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทางบก เรือ และอากาศ ทุกช่องทางยังเข้มข้นเหมือนเดิม แต่คนที่เดินทางเข้ามาอาจมีเชื้อซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล ขณะที่มาตรการห้ามออกนอกเคหสถานนั้น จะมีการผ่อนคลายตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยปรับลดเวลาเป็น 23.00-03.00 น. เพื่อผ่อนปรนให้ 1 ชั่วโมง เพราะเราทราบดีว่าเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงกิจกรรมบางอย่างให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ สำหรับการเดินทางห้ามจังหวัดนั้น อนุญาตให้เดินทางข้ามได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป แต่ไม่ถือว่าเสรีมาก เพราะเห็นว่าบ้านยังเป็นที่ปลอดภัยที่สุด แต่การเดินทางมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตและกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของทางราชการ เจ้าหน้าที่สามารถสอบถามถึงเหตุผล ความจำเป็นในการเดินทางและระยะเวลาที่จะใช้ ทั้งนี้ กรณีที่ประชาชนเริ่มมีการจองที่พักตามสถานที่ท้องเที่ยวต่างๆถือว่ามีความเหมาะสมแค่ไหนในช่วงเวลานี้นั้น ก็ต้องไปดูว่าไปเที่ยวที่ไหน ถ้าไปชายทะเลยังไม่เปิด แต่ถ้าเป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมเปิดให้บริการแล้ว
“เหตุผลที่ยังไม่ยกเลิกเคอร์ฟิว เพราะมีเรื่องสำคัญตอนนี้เรายังห้ามดื่มสุราในร้านอาหาร แต่ให้ซื้อกลับไปกินที่บ้าน เนื่องจากมีคนบางกลุ่มใช้ช่วงเวลานี้มั่วสุมทำไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรค จึงต้องมีเคอร์ฟิวกำกับ อาจจะไม่สะดวกแต่จำเป็นในช่วงเวลานี้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเราพยายามลดลงไปเรื่อยๆ” พล.อ.สมศักดิ์กล่าว