ส.ส.เชียงราย ก้าวไกล ชี้เงินกู้ 1 ล้านล้านทุ่มสาธารณสุขแค่ 4.5% จี้คลายล็อกเศรษฐกิจ เจอเชื้อแล้วค่อยปิดใหม่ เพิ่มวงเงินให้ สธ.เป็นแสนล้านใช้ลุยวัคซีนพัฒนาอุปกรณ์-สนับสนุนบุคลากร
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่อาคารรัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาพระราชกำหนดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 รวม 3 ฉบับ เป็นวันที่ 2 นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายถึง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทว่า ด้วยวงเงินนี้รัฐบาลมีการกันให้กับด้านสาธารณสุขเป็นจำนวน 45,000 ล้านบาท คิดเป็นแค่ 4.5% ของวงเงินกู้ทั้งหมดเท่านั้น ขณะที่คณะกรรมการกลั่นกรองกลับไม่มีผู้มีความรู้ด้านสาธารณสุข และไม่มีตัวแทนภาคประชาชน แต่ที่น่ากังวลคือรายละเอียดการใช้เงิน โดยระบุเพียงเป็นค่าตอบแทน ค่าเสี่ยงภัย ค่าจัดหายาเวชภัณฑ์รวมถึงวัคซีน การตรวจในห้องปฏิบัติการ ค่าวิจัย การรักษา ค่าใช้จ่ายในการกักตัว รวมทั้งเหตุฉุกเฉิน วัคซีนจึงเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยในวงเงินนี้ ในขณะที่รัฐยังไม่ยอมคลายล็อก เหมือนรอความหวังจากวัคซีนอย่างเดียว ซึ่งอย่างน้อยที่สุดต้องใช้เวลาอีก 1 ปี
นพ.เอกภพกล่าวว่า แม้การล็อกดาวน์เป็นการยับยั้งไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวดเร็วจนบุคลากรทางการแพทย์รับมือไม่ได้ การปิดเมืองได้ผลการดำเนินการเรื่องต่อสู้กับไวรัส แต่จะตั้งการ์ดอย่างเดียวรอหมัดน็อกจากวัคซีน ที่สุดเราอาจแพ้ก็ได้ จึงขอเสนอให้คลายล็อกเศรษฐกิจมีการขับเคลื่อน เป็นไซคลิก ล็อกดาวน์ (cyclic lockdown) ที่มีวงจรเปิดแล้วติดเชื้อเพิ่มก็ปิดใหม่แล้วเปิดอีกอย่างมีกลยุทธ์สลับกันไป และต้องเพิ่มศักยภาพของสาธารณสุข
นพ.เอกภพกล่าวต่อว่า ในทางระบาดวิทยาประชาชนต้องมีผู้มีภูมิคุ้มกัน 60-80% จึงจะหยุดการระบาดได้ ซึ่งราคาวัคซีนที่มีการประเมินกันขณะนี้คือเข็มละ 300-1,000 บาท คิดเป็นวงเงินที่ต้องใช้ 12,060-67,000 ล้านบาท ปัจจุบันหน่วยงานผลิตวัคซีนในไทยมี 2 แห่ง คือ สถานเสาวภา และองค์การเภสัชกรรม แต่ไม่เคยผลิตวัคซีนใหม่ๆ รวมทั้งศักยภาพของปริมาณที่ผลิต หากไม่ต้องการรอการผลิตวัคซีนจากต่างประเทศเป็นเวลานานๆ ก็ต้องพัฒนาเทคโนโลยีและความสามารถในการผลิตส่วนนี้ เป็นตัวยืนยันด้วยว่าประชาชนจะได้รับวัคซีนแบบถ้วนหน้า ตนเชื่อว่าบุคคลากรทางการแพทย์ยินดีที่จะรักษาผู้ป่วยทุกราย ยินยอมให้เปิดเมืองเพื่อประชาชนไม่อดตาย แต่รัฐต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ อย่าปล่อยให้ขาดแคลนทุกๆ อุปกรณ์ ไม่ใช่ต้องรอรับการบริจาค หรือต้องใช้เสื้อกันฝนแทนชุด PPE
ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ข้อเสนอของพรรคคือให้มีการปรับวงเงินกู้เพื่อใช้สำหรับด้านสาธารณสุขเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท โดยใช้ 6 หมื่นล้านบาทสำหรับวัคซีนเมื่อมีการผลิตได้สำเร็จ โดยที่ประชาชนทุกคนต้องมีสิทธิเข้าถึง และอีก 4 หมื่นล้านบาทสำหรับการพัฒนาศักยภาพระบบสาธารณสุข การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา และสำหรับสนับสนุนบุคลากร การต่อสู้กับโรคระบาดต้องเป็นการต่อสู้จากความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่าย เมื่อถึงวันประกาศชัยชนะต้องเป็นชัยชนะของทุกคน ไม่ใช่ชัยชนะบนความยากลำบากของประชาชนบนฐานของหนี้ก้อนใหญ่ที่คนรุ่นต่อๆ ไปต้องมาชดใช้ เมื่อไหร่ที่ชนะต้องชนะด้วยกัน