xs
xsm
sm
md
lg

“สิริพงศ์” ห่วงเงินกู้เยียวยาไม่รวดเร็ว-รอบคอบ แนะใช้พัฒนารับท่องเที่ยวหลังโควิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (แฟ้มภาพ)
ส.ส.ศรีสะเกษ ภท. ห่วงเงินกู้เยียวยาไม่รวดเร็ว-รอบคอบ แนะรัฐบาลนำเงินมาพัฒนารองรับการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ชี้ เก็บภาษีรายใหญ่ดีกว่าไล่บี้รายย่อย

วันนี้ (27 พ.ค.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ยอมเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง วันนี้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ และสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะทำก็เป็นสิ่งที่ทุกประเทศกำลังทำ คือ มีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเหมือนกัน ต่างกันตรงรายละเอียดที่ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจและสังคม แต่ทำอย่างไรจะทำให้เงินเยียวยาถึงประชาชนเร็วที่สุด และเงินที่กู้มาต้องไปถึงประชาชนอย่างรอบคอบและรัดกุม ตนเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนเห็นด้วยในหลักการว่าเงินกู้สำคัญที่จะฟื้นฟูประเทศไทย ตนขอนำเสนอข้อกังวลที่ได้รับฟังมา คือ เงินเยียวยา หลายคนกังวลเรื่องหลักเกณฑ์ ต้องดูว่าเงินเยียวยาที่จ่ายไปแล้วถึงหรือไม่อย่างไร และหากไม่ออกนโยบายมากระตุ้นให้ใช้เงินหมุนในระบบเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ เงินก้อนนี้ก็จะไม่เกิดประโยชน์, เงินที่กันไว้ 45,000 ล้านบาท เพื่อทางการแพทย์ แต่จะพอหรือไม่ เงิน 4 แสนล้านบาท เป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่เห็นเพียงกรอบ วันนี้ไม่เห็นรายละเอียด ตนกังวลว่าจะกลายเป็นเบี้ยหัวแตก ไม่ส่งผลต่อการฟื้นฟูตามเป้าหมาย ต้องดูการบูรณาการในแต่ละกระทรวง ขณะเดียวกัน การแพทย์ของไทยมีความก้าวหน้า แต่จะทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และการท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย รัฐบาลต้องนำเงิน 4 แสนล้านบาทนี้ ไปฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้น และสุดท้าย คือ พ.ร.ก. Soft Loan จะไปถึงผู้ประกอบการ SME จริงหรือไม่ หลักการและขั้นตอนจะไปถึงรายย่อยหรือไม่ ไม่ใช่หมดโควตาไปก่อน หลักเกณฑ์ของแต่ละธนาคารเหมือนกันหรือไม่

นอกจากนี้ ปลายทางที่กระทรวงการคลังจะออกมาตรการดอกเบี้ยอย่างไร เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัว แม้จะปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้จริง แต่ยังมีการเก็บดอกเบี้ยสูง ก็ไม่เกิดประโยชน์ ทุกวันนี้คนกลัวว่าหนี้สาธารณะจะตกไปถึงลูกหลาน ดังนั้น รัฐบาลต้องแสดงความพร้อมในการใช้หนี้ก้อนนี้ด้วย การปรับตัวเข้ากับยุคสมัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเก็บภาษีการค้าออนไลน์จากผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างชาติ ตนไม่ต้องการเห็นที่จะไปไล่เก็บภาษีจากผู้ประกอบการรายย่อย แต่ทำอย่างไรจะเก็บภาษีจากผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างชาติที่กอบโกยรายได้ในประเทศได้


กำลังโหลดความคิดเห็น