อดีตรองโฆษก ปชป.เผยทุกข์ชาวบ้าน ดอกเบี้ยบานยุคโควิด-ติดหนี้นอกระบบ ดอกโหดกลับมาเฟื่องฟู แนะรัฐออกโครงการแก้หนี้บรรเทาความเดือดร้อน จัดการนายทุนหน้าเลือดทำนาบนหลังคนอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (27 พ.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เงินฝืด ดอกเบี้ยโหด หนี้นอกระบบกำลังระบาด รัฐต้องเร่งช่วยชีวิตคนจน” มีเนื้อหาระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยสะท้อนปัญหาครูในศูนย์เด็กเล็ก กทม.ที่ได้รับเงินชดเชยล่าช้า หลายคนหันไปพึ่งบริการเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 แบบไม่มีทางเลือก เพราะยังเข้าไม่ถึงเงินชดเชยจากภาครัฐ แต่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน จึงเป็นหนี้เป็นสิน ไม่มีเงินจ่ายดอก หรือจ่ายช้าก็ถูกข่มขู่ วัฏจักรเงินกู้โหดกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนหน้าเลือด ถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ จึงอยากให้รัฐบาลจัดโครงการแก้หนี้นอกระบบที่เพิ่งเกิดในช่วงโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ด้วยการนำหนี้นอกระบบเข้าสู่ในระบบ แบ่งเบาภาระดอกเบี้ย รวมถึงจัดการกับนายทุนเงินกู้ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ด้วยการบังคับใช้กฎหมายลงโทษอย่างเด็ดขาดกับคนที่ทำนาบนหลังคน
“ตอนนี้ธนาคารรัฐหลายแห่งทยอยออกมาตรการมาช่วยเหลือประชาชนในเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ผมอยากให้เพิ่มโครงการจัดการหนี้นอกระบบยุคโควิด-19 เข้าไปด้วย เพราะตอนนี้สถิติการเป็นหนี้นอกระบบของชาวบ้านเพิ่มสูงขึ้นมาก จากเดิมที่รัฐบาลพยายามแก้ไขไปซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ปัญหาหนี้นอกระบบกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง รัฐบาลต้องเร่งจัดการเพื่อให้เท่าทันกับปัญหา ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ขบวนการทวงหนี้โหดออกอาละวาด ข่มขู่ คุกคามชีวิตคนจนในยุคโควิด เพราะลำพังก็จะเอาชีวิตจะไม่รอดอยู่แล้ว” นายเชาว์กล่าว