หัวหน้าเพื่อไทย แจง “พินิจ” ทำใจลูกชายเสียชีวิตไม่ได้ และสนลงการเมืองท้องถิ่นมากกว่า จึงเว้นวรรคไม่ลงเลือกตั้งซ่อมลำปาง พรรคเคารพการตัดสินใจ ก้าวไกลรับเสียดายส่งคนลงแทนไม่ได้
วันนี้ (26 พ.ค.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพินิจ จันทรสุรินทร์ ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่างในนามพรรคเพื่อไทย ก่อนตัดสินใจแจ้งว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร ว่าพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครบถ้วนถูกต้องทุกประการ และสามารถไปยื่นสมัครได้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดรับสมัครแล้ว นายพินิจเองก็แสดงความพร้อมในการลงรักษาพื้นที่และดูแลพี่น้องประชาชนชาวเขต 4 จ.ลำปาง แทนนายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.ในพื้นที่ซึ่งเป็นบุตรชายที่เพิ่งเสียชีวิตไป แต่พอถึงวันสมัคร นายพินิจรู้สึกไม่สบายใจเพราะยังคงโศกเศร้าเสียใจ และทำใจเรื่องการสูญเสียบุตรชายยังไม่ได้ ประกอบกับประเมินว่ารัฐบาลไปต่อลำบาก อายุสภาอาจเหลือไม่มาก และต้องเผชิญกับการใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบ และที่สำคัญนายพินิจมีความประสงค์จะลงสมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และได้ยื่นความจำนงแจ้งให้พรรคทราบไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงตัดสินใจขอเว้นวรรคการเลือกตั้งในครั้งนี้ไปก่อน ทั้งนี้ นายพินิจยังคงทำงานการเมืองต่อไป โดยสนใจทำงานการเมืองท้องถิ่นเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนชาวลำปาง เมื่อพรรคได้ทราบก็เข้าใจ และเห็นว่าไม่มีใครที่เหมาะสมจะมาทดแทนได้ในเวลานี้ จึงไม่สามารถส่งตัวแทนของพรรคลงสมัครได้
“การเลือกตั้งมีแพ้มีชนะได้ แต่หัวใจสำคัญคือการอาสารับใช้พี่น้องประชาชน เราตั้งใจสู้เต็มที่เพื่อดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป แต่เกิดเหตุสุดวิสัยและต้องเคารพการตัดสินใจของนายพินิจ” นายสมพงษ์กล่าว
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายว่าพรรคก้าวไกลไม่สามารถส่งตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ได้ เนื่องจากเหตุผล 2 ประการสำคัญ คือ 1. สมาชิกพรรคก้าวไกลที่ย้ายมาจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ หลังจากถูกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนุญสั่งยุบพรรค หากนับจากวันที่สมัครถึงปัจจุบันยังไม่มีใครเป็นสมาชิกเกิน 90 วันตามที่กฎหมายกำหนด และ 2. การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง พรรรคจำเป็นต้องมีคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ต้องมีที่มาจากการประชุมใหญ่ของพรรค แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดประชุมและเลือกคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะเร่งให้มีการประชุมใหญ่เพื่อให้สามารถมีคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครสำหรับการเลือกตั้งซ่อมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต