แกนนำคณะก้าวหน้า จี้เลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ถามโควิด-19 ลด เพราะกฎหมายหรือทีมสาธารณสุข-ประชาชน ชี้ เป็นไปได้ยากคนออกคำสั่งปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด แถมยังทำฟ้องศาลปกครองไม่ได้ อ้างเหมือนรัฐประหารโควิดรวบอำนาจให้ “ประยุทธ์” หรือคงไว้เพื่อสกัดม็อบต้าน ก่อนปลุกมวลชนบี้เลิก
วันนี้ (22 พ.ค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และแกนนำคณะก้าวหน้า เผยแพร่วิดีโอหัวข้อ พอได้แล้วหรือยัง ? สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ในปัจจุบันประชาชนเริ่มย้อนถามรัฐบาล ว่า ประเทศไทยสามารถทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยลง เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ มาจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลจริงหรือไม่ หรือเอาเข้าจริง เป็นเพราะความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจจากบุคลากรทางด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) รวมถึงความเสียสละของพี่น้องประชาชนที่ร่วมแรงร่วมใจกันรักษาระยะห่างทางสังคม
นายปิยบุตร กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีข้ออ่อนในหลายประเด็น ทั้งอำนาจของคนประกาศ ฝ่ายบริหารสามารถประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้เอง โดยไม่มีการตรวจสอบจากทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ คือ รัฐสภา และจากฝ่ายตุลาการ คือ ศาล และเมื่อไม่มีระบบตรวจสอบ เป็นไปได้ยากที่คนที่ออกคำสั่งจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีองค์กรอื่นเข้ามาตรวจสอบถ่วงดุลกันได้ ทั้งนี้ ผลของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังส่งผลให้มีการยกเว้นกฎหมายสำคัญ เช่น กฎหมายวิธีพิจารณาปฏิบัติราชการทางปกครอง ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำหรืออกคำสั่งได้เลยไม่ต้องไปดูขั้นตอนระเบียบทางราชการ
แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ยกเว้นกฎหมายจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ทำให้หากมีบุคคลใดต้องการโต้แย้ง หรือขอทุเลา กฎต่างๆ คำสั่งทางปกครองต่างๆ ที่ออกมาในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อต้องการขอความเป็นธรรม ฟ้องไปที่ศาลปกครอง ศาลปกครองจะไม่รับฟ้องคดี เพราะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ยกเว้นอำนาจศาลปกครอง แม้จะสามารถฟ้องไปที่ศาลยุติธรรมได้ แต่แนวโน้มการพิพากษาคดีจะยกฟ้อง เนื่องจากเป็นดุลพินิจและอำนาจโดยแท้ของฝ่ายบริหารของรัฐบาล ศาลไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบหรือคดีไปในทางเทคนิคว่า ผู้ฟ้องยังไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจ
“ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเสมือนเป็นรัฐประหารโควิด รวบอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง จนสามารถใช้กฎหมายปกติได้ การคงสถานการณ์ฉุกเฉินไว้จึงไม่มีความจำเป็น ประชาชนมีสิทธิที่จะตั้งคำถามดังๆ กลับไปว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจำเป็นต่อการจัดการโรคระบาด หรือ จำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาเฉพาะตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือป้องกันการชุมนุมต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ กันแน่ ประชาชนต้องไม่ยอมให้รัฐบาลทำเรื่องผิดปกติให้เป็นปกติ ร่วมมือกันรณรงค์ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที” นายปิยบุตร กล่าว