ปธ.กกต.ควงรองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมกำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 ในหน่วยเลือกตั้งซ่อมลำปาง ให้ใส่หน้ากากตลอด ทำความสะอาดทุก 1 ชม. ตั้งหน่วยแยกรับผู้ที่มีไข้สูงก่อน เชื่อมาตรการสร้างความมั่นใจให้ ปชช.ออกมาใช้สิทธิ
วันนี้ (21 พ.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วย นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มาตรวจดูการจัดหน่วยเลือกตั้งจำลองและการนับคะแนนจำลองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะให้ กกต.จังหวัดลำปาง ใช้เป็นรูปแบบในการจัดหน่วยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 มิ.ย. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยหน่วยเลือกตั้งที่จัดขึ้นจะเน้นการเว้นระยะห่างในแต่ละจุดภายในหน่วยประมาณ 2 เมตร มีการกำหนดจุดยืนของผู้มาใช้สิทธิ โดยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จะต้องสวมกากอนามัย หรือหน้ากากผ้า Face Shield และถุงมือยาง ตลอดเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเมื่อมาใช้สิทธิจะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และรอที่จุดพักคอยที่จะมีการจัดเก้าอี้เว้นระยะห่างไว้ จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการตรวจสอบรายชื่อ ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ อสม.มาเป็นผู้ตรวจ หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศาจะถูกแยกให้ไปใช้สิทธิยังหน่วยเลือกตั้งพิเศษที่อยู่ใกล้เคียง
ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ผ่านการตรวจอุณหภูมิก็จะเข้ายื่นหลักฐานแสดงตนเพื่อขอใช้สิทธิ จุดนี้เจ้าหน้าที่จะให้ผู้มีสิทธิล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังลงลายมือชื่อถือ ก่อนและหลังเปิดหน้ากากเพื่อยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่และหลังรับบัตรเลือกตั้งก่อนเข้าคูหาใช้สิทธิ ขณะที่ กปน.ก็จะต้องทำความสะอาดโต๊ะ อุปกรณ์ต่างๆ ทุก 15 นาที และทำความสะอาดคูหาลงคะแนนหลังมีผู้ใช้สิทธิแล้ว 4-5 คน รวมทั้งต้องทำความสะอาดภายในหน่วยเลือกตั้ง ทุก 1 ชั่วโมงคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับหน่วยเลือกตั้งพิเศษของผู้มาใช้สิทธิที่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเมื่อจะใช้สิทธิ ประธาน กปน. จะผู้อำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้ผู้มีสิทธิคนดังกล่าวต้องไปสัมผัสกรรมการคนอื่นๆ และเมื่อใช้สิทธิเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะเร่งทำความสะอาดอุปกรณ์และคูหาทันที เมื่อออกจากคูหาจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมารับตัวเพื่อไปตรวจสอบว่าจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคหรือไม่
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า จากการเพิ่มมาตรการป้องกันดังกล่าวจะทำให้ระยะเวลาการใช้สิทธิของประชาชนจะเพิ่มขึ้นเป็น 6-10 นาทีต่อคน จากเดิมที่จะใช้เวลาไม่เกิน 4 นาที แต่ก็ยังเชื่อว่าจากการประสานให้ กกต.เขต 4 ลำปางประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่ละหมู่บ้านทยอยมาใช้สิทธิในเวลาที่มีการขอความร่วมมือ และการเพิ่มหน่วยลงคะแนนจาก 321 หน่วย เป็น 400 หน่วย ทำให้แต่ละหน่วยจะมีผู้มาใช้สิทธิไม่เกิน 400 คน น่าจะทำให้การใช้สิทธิไม่เกิดปัญหา ขณะที่งบประมาณในการจัดเลือกตั้งซ่อมจะใช้งบเพิ่มขึ้น 40% จากเดิมที่จะใช้ครั้งละ10-13 ล้านบาท
นายอิทธิพรกล่าวต่อว่า กกต.ได้มีการทำแผนจัดเลือกตั้งในสถานการณ์โควิด-19 ไว้ก่อนหน้านี้แล้วเมื่อต้องจัดเลือกตั้งซ่อมลำปาง จึงนำแผนมาเพิ่มเติมรายละเอียด โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด แต่เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกิดความสบายใจและปลอดภัย จึงได้ขอความร่วมมือจากทางกรมควบคุมโรคมาให้ข้อแนะนำ โดยในชั้นนี้สิ่งที่ กกต.กำหนดได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่าจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกิดความมั่นใจ และมาใช้สิทธิ์
ส่วนการรับสมัครเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดพื้นที่รับสมัครไม่น้อยกว่า 7 ตารางเมตร กำหนดให้ผู้สมัครมีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 5 คน หลังการรับสมัครผู้สมัครสามารถหาเสียงได้ตามปกติ ส่วนการจัดเวทีปราศรัยสามารถทำได้ หากผู้สมัครมีสถานที่และสามารถดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่รัฐบาลกำหนด เช่น การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การสวมหน้ากากอนามัย และมีเจลแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือ จากนี้ กกต.ยังได้มีการประสานขอให้รัฐบาลออกข้อกำหนดเพื่อขยายเวลาเคอร์ฟิวในพื้นที่เขตเลือกตั้งในวันเลือกตั้งเพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติเลือกตั้งจำนวนเท่าใดที่จะต้องทำงานเกินกว่าเวลาเคอร์ฟิว
ด้าน นพ.อัษฎางค์กล่าวว่า มาตรการที่ กกต.ทำขึ้นก็เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่เจ้าหน้าที่ ผู้มาใช้สิทธิ ว่าจะปลอดภัยซึ่งทางสาธารณสุขก็ได้ให้คำแนะนำ และจะประสานกับสาธารณสุขจังหวัดลำปางให้เข้าไปสนับสนุนภารกิจของ กกต.ในพื้นที่ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่และผู้มีสิทธิถ้าปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ทุกคนก็จะมีความปลอดภัย