นายกฯ ขออนุญาตคนไทยนำวิกฤตการบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูในศาล ไม่ปล่อยให้ล้มละลายเอง เผยเป็นการตัดสินใจบนความยากลำบากของตัวเองและ ครม. เพื่อรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ-ประชาชน ให้สายการบินกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรมมากว่า 60 ปี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แบบเต็มคณะ จากนั้นเวลา 12.10 น. นายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม.ผ่านไลฟ์สดเพจไทยคู่ฟ้าว่า ขอแจ้งให้ทราบการตัดสินใจในเรื่องของการบินไทยซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ตนรู้ว่าจะช่วยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนทุกคนได้อย่างไร ในส่วนของปัญหาเรื่องนี้ทุกคนทราบดีอยู่แล้วที่มีหนี้สินต่างๆ มากพอสมควร มีอยู่ 3 ทางเลือกด้วยกัน คือ 1. การหาเงินให้การบินไทยดำเนินการต่อไป 2. ปล่อยให้เข้าสู่สถานการณ์ล้มละลาย และ 3. เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาการฟื้นฟูไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนักเพราะมีข้อกฎหมายอยู่หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ร.บ.แรงงาน และ พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ ดังนั้น วันนี้เราจำเป็นต้องหามาตรการที่เหมาะสม และรัฐบาลได้มีการพิจารณาร่วมกันในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และ ครม.แล้ว
“พวกเราทุกคนตัดสินใจว่าเราจะเลือกทางที่ 3 เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของศาล ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และจะต้องมีการดำเนินการอีกหลายขั้นตอนต่อไปเพื่อแก้ปัญหาภายในองค์กร และเรื่องประกอบการต่อไป เพื่อให้ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างที่พวกเราคาดหวังไว้ ผมอยากให้ทุกคนกลับไปคิดดูว่าเรามีการบินไทยเพื่ออะไรในช่วงที่ผ่านมา และการบินไทยควรที่จะเป็นองค์กรที่จะสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้แก่คนไทย และมีความสามารถในการแข่งขัน เข้มแข็งในตัวเองได้อย่างไร นี่คือพื้นฐานในการตัดสินใจของผม และนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันนี้ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องกล้าที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูโดยการยื่นขอเข้ากระบวนการต่อศาลซึ่งได้มีการหารือกันอย่างรัดกุมในรายละเอียดต่างๆ ทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ประเทศไทยและทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤต รายได้ของทุกคนกำลังหายไปจากหายนะของโควิด-19 เราจำเป็นต้องรักษาเงินตราของประเทศไทยเอาไว้เพื่อใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาข้างหน้าต่อจากนี้ซึ่งต้องช่วยเหลือเกษตรกรที่ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างๆ ที่เผชิญวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทางธุรกิจ หรือช่วยเหลือคนหาเช้ากินค่ำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือประชาชนทั่วไปที่ทำงานหนักในขณะนี้ เพื่อมีเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง รัฐบาลต้องมองอย่างรอบครอบในทุกมิติดังกล่าวที่ว่ามา แม้ว่าวันนี้เราจะอยู่ในจุดที่สามารถควบคุมวิกฤตทางด้านสุขภาพได้ดีในระดับหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ แต่ปัญหาโควิด-19 กราบเรียนว่าจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะปัญหาที่หนักกว่านั้นซึ่งรัฐบาลกำลังหาหนทางปฏิบัติแก้ปัญหาดังกล่าว คือ ปัญหาการทำมาหากินเลี้ยงปากท้องของประชาชนที่ทุกคนในประเทศไทยล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น และยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถกลับมาทำมาหากินสร้างรายได้เหมือนปกติอย่างเคย นี่คือวิกฤตทางเศรษฐกิจที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต เราจำเป็นต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนในการใช้จ่ายงบประมาณอีกจำนวนมากหลังจากช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด สร้างชีวิตสร้างรายได้กลับสู่ภาวะปกติ และสร้างเศรษฐกิจประเทศกลับคืนมา และเข้มแข็งในระยะต่อไป รัฐบาลจึงต้องมองในทุกมิติ
“ผมเองรู้สึกว่าการที่ตัดสินใจเข้าสู่แผนการฟื้นฟูโดยไม่ปล่อยให้การบินไทยเข้าสู่สถานะล้มละลาย ซึ่งอาจจะทำให้พนักงานมากกว่า 2 หมื่นคนต้องถูกลอยแพ พวกเราคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น คงไม่อยากเห็น ฉะนั้น รัฐบาลยืนยันว่าจะสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่เพื่อให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้แม้จะไม่ได้รับเงินจากรัฐบาล จึงขออนุญาตให้การบินไทยเข้าไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองของศาลและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูภายใต้คำสั่งของศาล ซึ่งศาลจะมีการพิจารณาแต่งตั้งมืออาชีพมาบริหารจัดการการฟื้นฟูการบินไทย ผมเองและพี่น้องประชาชนทุกคนคงคาดหวังเช่นเดียวกันว่าเมื่อมีมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการแล้ว การบินไทยจะสามารถกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยเคยภาคภูมิใจ และกลับมาเป็นองค์กรที่ช่วยสร้างความรุ่งเรืองให้แก่ประเทศไทยได้ ด้วยวิธีการนี้เป็นวิธีการเดียวที่การบินไทยจะยังคงสามารถประกอบกิจการและดำเนินการต่อได้ พนักงานการบินไทยจะมีงานทำต่อไป ขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างของการบินไทยหลายๆ อย่างที่ควรจะสำเร็จนานแล้วก็จะเกิดขึ้นได้ด้วยในการเข้าสู่มาตรการฟื้นฟู นั่นคือการตัดสินใจของผมและเป็นทิศทางที่รัฐบาลจะยึดมั่นปฏิบัติต่อกรณีของการบินไทยส่วนในอดีตต่างๆ จะเป็นไปตามที่ศาลกำหนด และคาดว่าจะแจ้งให้ทุกท่านทราบในโอกาสต่อไป ซึ่งได้ให้กระทรวงคมนาคมและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวถึงรายละเอียดอีกครั้ง” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การบินไทยถือว่าเป็นทูตที่ดีทางวัฒนธรรมที่ช่วยโปรโมตประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 60 ปี ผ่านการทุ่มเทการทำงานของคนมากมายจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน วิศวกร ช่าง พนักงานภาคพื้น รวมถึงพนักงานอื่นๆ ของการบินไทย ตนหวังเช่นเดียวกับคนไทยทุกคนว่าการช่วยเหลือให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูภายใต้คำสั่งศาลลจะช่วยให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินที่มีความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ขอบคุณอีกครั้ง นี่คือการตัดสินใจของตนและ ครม.ในวันนี้