xs
xsm
sm
md
lg

จบแบบไหน? “คณะก้าวหน้า” ประกาศ “พลิกตอนจบ” เอา “บิ๊กสุ-ลุงตู่” บทเรียน “คนทักษิณ” ส่งชิกสุกงอมลุย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ แกนนำคณะก้าวหน้า ช่อ-พรรณิการ์
“คณะก้าวหน้า” ประกาศกร้าว “พลิกตอนจบ” บทเรียนรัฐประหารยุค “บิ๊กสุ-ลุงตู่” กลเกมสืบทอดอำนาจ “นคร” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แนะฝ่ายค้าน ขบวนการนักศึกษา ให้รอสถานการณ์สุกงอม สู้นอกกรอบก็ต้องสู้

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 พ.ค. 63) เฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความหัวข้อ “[ หนังม้วนเดิมที่ตอนจบจะต้องไม่เป็นแบบเดิม ]”

โดยระบุว่า “เมื่อเปรียบเทียบการรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534 กับการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นั้น มีลักษณะการสืบทอดอำนาจโดยใช้วิธีการคล้ายคลึงกันอยู่หลายประการ เช่น :

1. ร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย เอื้อให้มีการสืบทอดอำนาจได้โดยง่าย เช่น การไม่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง การให้ ส.ว.มาจากการสรรหาจากคณะรัฐประหาร และให้อำนาจ ส.ว. สูงมาก เช่น การให้ ส.ว.มีอำนาจร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับหลังการรัฐประหารทั้งสองครั้งนั้น ต่างร่างโดยคนเดียวกัน ชื่อ “มีชัย ฤชุพันธุ์”

2. มีการตั้งพรรคการเมืองที่มุ่งสืบทอดอำนาจให้คณะรัฐประหาร มีการใช้อำนาจทั้งทางกฎหมายและอำนาจปืนในการข่มขู่คุกคามกดดันให้ ส.ส. และนักการเมืองย้ายเข้ามาสังกัดพรรคตนเอง เพื่อให้ลงเลือกตั้งและจะได้ ส.ส. เป็นจำนวนมาก แล้วค่อยโหวตนายกรัฐมนตรีที่เป็นนายทหารในคณะรัฐประหาร และไม่ได้ลงเลือกตั้ง โดยในการเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2535 มีพรรคสามัคคีธรรม ส่วนในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ก็มีพรรคพลังประชารัฐ

3. ที่สำคัญที่สุด การรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารนั้น สำเร็จลุล่วงไปได้ก็เพราะมีนักการเมืองและพรรคการเมืองให้ร่วมเป็นนั่งร้านให้เผด็จการเพียงเพราะต้องการได้อำนาจและผลประโยชน์ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

แต่สิ่งที่น่าคิดที่สุด ก็คือ หากนักการเมืองและพรรคการเมืองพิจารณาจากสถานการณ์และความรู้สึกนึกคิดของประชาชนแล้ว ย่อมทราบดีว่า ไม่พอใจและเบื่อหน่ายการสืบทอดอำนาจเช่นนี้

นักการเมืองและพรรคการเมืองทุกฝ่าย จะยอมปล่อยให้ประชาชนลงถนนไปขับไล่เผด็จการแล้วต้องบาดเจ็บล้มตายกันอีกครั้งหรือ? จะยอมให้หนังม้วนเดิมเมื่อปี 2535 กลับมาฉายซ้ำอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?

ทุกคนทุกฝ่ายยังมีโอกาสร่วมมือกันหยุดสืบทอดอำนาจ เดินหน้าร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน และให้ทุกคนทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันบนกติกาที่ยุติธรรมได้

และหนังเรื่องนี้ตอนจบจะต้องไม่เป็นเหมือนเดิม

#ตามหาความจริง #2553 พฤษภาความจริงต้องปรากฏ

ภาพ นายทักษิณ ชินวัตร และนายนคร มาฉิม จากแฟ้ม
อีกด้าน นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“ความขัดแย้งภายในพรรคแกนนำรัฐบาล ไม่ทำให้รัฐบาลล้มได้

อย่าคาดหวังว่า ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงตำแหน่งของพรรคการเมืองแกนนำรัฐบาลจะเป็นชนวนให้รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ล้มคว่ำ เพราะโครงสร้างอำนาจ เครือข่ายเผด็จการยังแข็งแกร่งมาก

1. รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช.ปี 60 ดีไซน์มาเพื่อพวกเขา

2. กลุ่มนายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูง องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม และพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการยังสมประโยชน์กันอย่างเหนียวแน่น

3. สมาชิกวุฒิสภา 250 คน ทายาทอสูรยังคงเป็นเสาค้ำยันในการสืบทอดอำนาจให้รัฐบาลนี้

4. รัฐบาลนี้ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และได้ใช้อำนาจผ่านระบบราชการ ผ่านกองทัพ และผ่าน กอ.รมน. อย่างเข้มข้นจนอาจเรียกได้ว่า เป็นรัฐทหารแล้ว ครอบงำประเทศครอบงำประชาชนทุกพื้นที่

5. การชุมนุมเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชนฝ่ายประชาธิปไตยทำได้ยากยิ่ง

หากต้องการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พรรคการเมืองฝ่ายค้านและนักเรียน นิสิต นักศึกษา ปัญญาชนฝ่ายประชาธิปไตย จะต้องไม่คาดหวังอะไรกับการแย่งชิงผลประโยชน์และตำแหน่งของพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ

ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องอดทน ใช้ความจริง ขยายเครือข่าย ให้คนส่วนใหญ่รู้เท่าทันกลเกมแห่งอำนาจ การโกหก หลอกลวงที่รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ครอบงำประเทศไว้ เมื่อสถานการณ์สุกงอมจึงลุกขึ้นสู้ และการต่อสู้นั้น เมื่อจำเป็นก็จะต้องสู้นอกกรอบ นอกกฎ กติกาของโจรกบฏจึงจะชนะ นำเอาความเป็นธรรม นำเอาสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาคและประชาธิปไตยที่แท้จริงมาได้”

ภาพ แฟลชม็อบ ฐานมวลชนที่มีความใกล้ชิดคณะก้าวหน้า
สำหรับ “นคร” เป็นคนที่เคยนำความจาก “ทักษิณ” มาบอกคนไทยว่า อยากกลับบ้าน โดยขอความเห็นใจจากประชาชน และผู้มากบารมี

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. เพจเฟซบุ๊ก EasyYukhon เผยแพร่คลิปรายการ “ขยี้ข่าวทอล์ค” ซึ่งมี นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมรายการ โดยมี นายยุคล วิเศษสังข์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

นายนคร เปิดเผยถึงการสนทนากับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ท่านอยากจะกลับประเทศไทย ในสภาท่านหมดหวัง ในสภาทุกอย่างเป็นไปตามเกมที่ฝ่ายเผด็จการกำหนดไว้ทั้งหมด คงไม่มีทางที่จะชนะได้ ท่านใช้คำนี้



“มีทางเดียวที่ท่านจะได้กลับบ้าน คือ ประชาชนเรียกร้องให้ท่านกลับมา และได้รับความเมตตาปรานีจากผู้มีบารมีของประเทศเท่านั้นแหละ”...
จากทั้งสองโพสต์ดังกล่าว จริงอยู่, ช่วงนี้เป็นช่วงของการรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญของเดือนพฤษภาคมหลายเหตุการณ์ อาจไม่แปลก ที่ฝ่ายเคลื่อนไหวทางการเมืองจะนำเอาเรื่องต่างๆ มาตอกย้ำ มาสร้างราคาประชาธิปไตย เพื่อการเล่นเกมการเมือง โดยเฉพาะต่อรัฐบาลที่พวกเขาหมายหัวอยู่แล้ว ว่า สืบทอดอำนาจเผด็จการ

แต่กระนั้น ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นถึงความไม่ธรรมดาอยู่ไม่น้อย ด้านหนึ่งสังเกตหรือไม่ ว่ามีการเดินเกมเพื่อกระทบเบื้องสูง ปลุกเร้า สร้างรากฐานที่เป็นปฏิปักษ์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ไร้รากวัฒนธรรม ปฏิเสธค่านิยมประเพณีดั้งเดิม และคลั่งค่านิยมตะวันตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา เรื่องนี้เห็นได้จากการสื่อออกมาทางโลกโซเชียลมากมาย

ยิ่งมีคนปลุกเร้าเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อล้มล้างแล้วละก็ มีหรือคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะไม่เดินตาม และสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนี้คงไม่มีใครคิดว่า ไม่มีคนที่คิดปลุกเร้าเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน คำว่า “ตอนจบจะต้องไม่เหมือนเดิม” แสดงว่า มีกระบวนการคิดที่จะเคลื่อนไหวให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก แต่จะ “พลิกตอนจบ” นั่นเอง?

ยิ่งโพสต์ของ “นคร” ซึ่งถือว่า เป็นคนที่ “ทักษิณ” ไว้ใจอย่างมาก ถือว่าเป็นการ “แบไต๋” ให้เห็นเลยด้วยซ้ำว่า จะมีการเคลื่อนไหวตอนไหน กลุ่มคนที่เป็นพันธมิตรเคลื่อนไหวมีใครบ้าง จำเป็นต้องสู้นอกกรอบก็ต้องสู้ เพื่อเอาชนะเผด็จการสืบทอดอำนาจ นี่คือ ประเด็น

เพียงแต่ “ตอนจบ” ยังไม่รู้ว่า จะลงเอยอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก็จะต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนเดิม ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ส่วน “ผู้นำ” มีหลายคนเผยออกมาแล้วว่า เตรียมการ “ลี้ภัย” ที่ฝรั่งเศสเอาไว้แล้ว

ถ้าอย่างนี้ เท่ากับปิดประตูการแก้ปัญหาทางการเมืองในสภาเรียบร้อย? และเห็นชัดว่า การเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน คือ การบ่มเพาะสถานการณ์ให้ “สุกงอม” พร้อมลงสู่ท้องถนน นั่นเอง

จะว่าไปแล้วก็สยองความคิดคน ที่เห็นชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเพียงบันไดอันไร้ค่า เป็นแค่ซากศพที่จะไต่เต้าไขว่คว้าอำนาจมาเป็นของตัวเอง ด้วยข้ออ้างอันหวานหู..ไม่ว่าใคร!


กำลังโหลดความคิดเห็น